Cloudflare Radar Year in Review ปี 2024 เป็นการทบทวนแนวโน้มและรูปแบบของอินเทอร์เน็ตประจำปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 5 เราจะมาดูตัวชี้วัดต่าง ๆ ทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ/ภูมิภาค ในการทบทวนของปีนี้ เราเพิ่มตัวชี้วัดใหม่ ๆ ทั้งด้านทราฟฟิก การปรับใช้ การเชื่อมต่อ และความปลอดภัยของอีเมล รวมถึงเพิ่มความสามารถในการเปรียบเทียบตัวชี้วัดแบบช่วงเดียวกันของปี (year-over-year) และแบบตามภูมิศาสตร์ สำหรับตัวชี้วัดที่คัดสรรมาแล้ว
เรานำเสนอบทสรุปสำคัญไว้ด้านล่างนี้ ก่อนจะสำรวจประเด็นเหล่านั้นอย่างละเอียดขึ้นในส่วนต่อ ๆ ไป
ประเด็นสำคัญ
ทราฟฟิก
ทราฟฟิกการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเพิ่มขึ้น 17.2% ในปี 2024 🔗
Google ยังคงครองตำแหน่งบริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยมที่สุดโดยรวม OpenAI ยังคงครองอันดับ 1 ในหมวดหมู่ Generative AI Binance ยังคงครองอันดับ 1 หมวดหมู่สกุลเงินคริปโต WhatsApp ยังคงเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความอันดับ 1 และ Facebook ยังคงเป็นเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอันดับ 1 🔗
ทราฟฟิกทั่วโลกจาก Starlink เพิ่มขึ้น 3.3 เท่าในปี 2024 สอดคล้องกับอัตราการเติบโตของปีที่แล้ว หลังจากเริ่มต้นการให้บริการในประเทศมาลาวีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ทราฟฟิก Starlink จากประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้น 38 เท่าในปี 2024 ขณะที่ Starlink เพิ่มตลาดใหม่ ๆ เราได้เห็นทราฟฟิกการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่เหล่านั้น 🔗
Googlebot ซึ่งเป็น Web Crawler ของ Google เป็นที่มาของจำนวนทราฟฟิกคำขอที่ Cloudflare ได้รับสูงที่สุดในปี 2024 โดยบอทเหล่านี้ได้รับเนื้อหาจากเว็บไซต์ของลูกค้า Cloudflare นับล้านรายการเพื่อการจัดทำดัชนีการค้นหา 🔗
ทราฟฟิกจาก AI crawler (Bytespider) ของ ByteDance ค่อย ๆ ลดจำนวนลงไปตลอดช่วงปี 2024 AI crawler (ClaudeBot) ของ Anthropic เริ่มแสดงสัญญาณกิจกรรมกวาดข้อมูลอย่างต่อเนื่องในเดือนเมษายน จากนั้นลดลงไปหลังจากที่เห็นจำนวนสูงสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 🔗
ทราฟฟิก TLS 1.3 จำนวน 13.0% ใช้การเข้ารหัสแบบ Post-quantum 🔗
การปรับใช้และการใช้งาน
ทราฟฟิกจากอุปกรณ์มือถือเกือบ 1 ใน 3 ของทั่วโลกนั้นมาจากอุปกรณ์ Apple iOS Android มีส่วนแบ่งทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือ >90% ใน 29 ประเทศ/ภูมิภาค แต่ส่วนแบ่งทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือ iOS มีสัดส่วนสูงกว่า 60% ใน 8 ประเทศ/ภูมิภาค 🔗
คำขอเว็บเกือบครึ่งหนึ่งจากทั่วโลกใช้โปรโตคอล HTTP/2 และมี 20.5% ที่ใช้ HTTP/3 การใช้งานของทั้งสองเวอร์ชันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2023 🔗
React, PHP และ jQuery ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยียอดนิยมที่สุดสำหรับการสร้างเว็บไซต์ ในขณะที่ HubSpot, Google และ WordPress เป็นผู้ให้บริการยอดนิยมที่สุดสำหรับบริการและแพลตฟอร์มสนับสนุน 🔗
Go แซงหน้า NodeJS ในฐานะภาษายอดนิยมที่สุดที่ใช้สำหรับการสร้างคำขอ API อัตโนมัติ 🔗
Google เป็นโปรแกรมค้นหายอดนิยมที่สุด ซึ่งทิ้งแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทั้งหมดอย่างไม่เห็นฝุ่น ทั้งในอุปกรณ์มือถือและระบบปฏิบัติการ Baidu ตามมาเป็นอันดับ 2 แต่ก็ยังห่างไกล Bing ตามมาไกล ๆ เป็นอันดับ 2 ในหมู่อุปกรณ์เดสก์ท็อปและ Windows ส่วน DuckDuckGo มาเป็นอันดับ 2 สำหรับ macOS ส่วนแบ่งนั้นแตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์มและประเทศ/ภูมิภาค 🔗
Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์ยอดนิยมที่สุดโดยรวม ถึงแม้จะเป็นที่นิยมมากที่สุดในอุปกรณ์ macOS ด้วย แต่การใช้งาน Safari นั้นสูงกว่าการใช้ Chrome อย่างมากในอุปกรณ์ iOS สำหรับ Windows นั้น Edge คว้าตำแหน่งเบราว์เซอร์ยอดนิยมอันดับที่ 2 เนื่องจากมาพร้อมกับเครื่องและจะเริ่มทำงานเป็นค่าเริ่มต้น 🔗
การเชื่อมต่อ
ทั่วโลกเกิดเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มครั้งใหญ่ 225 ครั้งในปี 2024 หลายเหตุการณ์มีสาเหตุจากการปิดระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตามคำสั่งของรัฐบาลทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค การตัดสายเคเบิลและไฟดับก็เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ เช่นกัน 🔗
จากการรวบรวมข้อมูลตลอดปี 2024 คำขอที่ใช้ IPv6 ได้ 28.5% เป็นการส่งผ่านระบบ IPv6 อินเดียและมาเลเซียเป็นประเทศที่มาแรงที่สุด โดยมีการปรับใช้ IPv6 คิดเป็นสัดส่วน 68.9% และ 59.6% ตามลำดับ 🔗
ประเทศ 10 อันดับแรกที่จัดอันดับตามความเร็วอินเทอร์เน็ตล้วนมีอัตราการดาวน์โหลดเฉลี่ยมากกว่า 200 Mbps สเปนยังครองตำแหน่งต้น ๆ อย่างต่อเนื่องจากตัวชี้วัดคุณภาพอินเทอร์เน็ตที่ใช้วัดทุกข้อ 🔗
ทราฟฟิกทั่วโลก 41.3% มาจากอุปกรณ์มือถือ ในเกือบ 100 ประเทศ/ภูมิภาค ทราฟฟิกส่วนใหญ่มาจากอุปกรณ์มือถือ 🔗
การเชื่อมต่อ TCP ถึง 20.7% หยุดทำงานอย่างไม่คาดคิดก่อนที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ 🔗
ความปลอดภัย
ระบบ Cloudflare ยับยั้งทราฟฟิกทั่วโลก 6.5% เนื่องจากมีโอกาสเป็นทราฟฟิกมุ่งร้ายหรือตามเหตุผลที่ลูกค้ากำหนด ในสหรัฐอเมริกา สัดส่วนของทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งเพิ่มขึ้นเป็น 5.1% ในขณะที่ในเกาหลีใต้ สัดส่วนนี้ลดลงเล็กน้อยเป็น 8.1% ใน 44 ประเทศ/ภูมิภาคมีการยับยั้งทราฟฟิกมากกว่า 10% 🔗
ทราฟฟิกบอทมากกว่า 1 ใน 3 นั้นมาจากสหรัฐอเมริกา Amazon Web Services เป็นที่มาของทราฟฟิกบอททั่วโลก 12.7% และอีก 7.8% มาจาก Google 🔗
เกม/การพนันเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีสูงที่สุดทั่วโลก โดยสูงกว่าอุตสาหกรรมการเงินที่ตกเป็นเป้าหมายสูงสุดของปี 2023 เล็กน้อย 🔗
Log4j ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่ค้นพบในปี 2021 ยังเป็นภัยคุกคามที่คงอยู่ และตกเป็นเป้าหมายตลอดปี 2024 อย่างต่อเนื่อง 🔗
ความปลอดภัยของการกำหนดเส้นทาง ซึ่งวัดเป็นส่วนแบ่งของเส้นทาง RPKI ที่ถูกต้องและส่วนแบ่งของพื้นที่ที่อยู่ IP ที่ครอบคลุม ดูดีขึ้นทั่วโลกตลอดปี 2024 เราพบว่าพื้นที่ที่อยู่ IPv4 ที่ถูกต้องของ RPKI เพิ่มขึ้น 4.7% ในปี 2024 และเส้นทางที่ถูกต้องของ RPKI เพิ่มขึ้น 6.4% ในปี 2024 🔗
ความปลอดภัยอีเมล
มีอีเมลเฉลี่ย 4.3% ที่ประเมินแล้วว่าประสงค์ร้ายในปี 2024 ทว่าตัวเลขนี้ได้อิทธิพลจากยอดในเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคมที่ล้วนเพิ่มสูงขึ้น ลิงก์หลอกลวงและการสวมรอยเป็นภัยคุกคามที่พบได้บ่อยที่สุดในข้อความอีเมลมุ่งร้าย 🔗
ข้อความอีเมลมากกว่า 99% ที่ประมวลผลโดย Cloudflare Email Security ที่มาจากโดเมนระดับบนสุด (TLD) อย่าง .bar, .rest, และ .uno พบว่าเป็นสแปมหรือมีลักษณะมุ่งร้าย 🔗
บทนำ
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (2020, 2021, 2022, 2023) เรารวบรวมมุมมองต่าง ๆ จาก Cloudflare Radar เพื่อจัดทำเป็น Year In Review ประจำปี โดยนำเสนอแนวโน้มของอินเทอร์เน็ตในหัวข้อต่าง ๆ ตลอดปีนั้น ๆ ไมโครไซต์ของ Cloudflare Radar Year In Review ปี 2024 ยังคงสานต่อธรรมเนียมนั้น เนื้อหาภายในประกอบด้วยแผนภูมิ กราฟ และแผนที่เชิงโต้ตอบ ที่คุณสามารถสำรวจและเปรียบเทียบแนวโน้มอินเทอร์เน็ตที่น่าสนใจตลอดปีที่ผ่านมานี้
เครือข่าย ของ Cloudflare ปัจจุบันครอบคลุมกว่า 330 เมืองในกว่า 120 ประเทศ/ภูมิภาค โดยให้บริการคำขอ HTTP(S) โดยเฉลี่ยมากกว่า 63 ล้านรายการต่อวินาทีสำหรับพร็อพเพอร์ตี้อินเทอร์เน็ตนับล้านราย นอกเหนือจากการจัดการคำขอ DNS มากกว่า 42 ล้านรายการต่อวินาทีโดยเฉลี่ย ข้อมูลที่ได้มาจากการใช้งานนี้ รวมกับข้อมูลจากเครื่องมือ Cloudflare เสริมอื่น ๆ ช่วยให้ Radar แสดงมุมมองเกี่ยวกับกระแสและแนวโน้มต่าง ๆ ได้เกือบจะเป็นแบบเรียลไทม์ ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย ทราฟฟิก ประสิทธิภาพ และการใช้งานที่เราเห็นได้ทั่วอินเทอร์เน็ต
Year In Review ปี 2024 แบ่งออกเป็น 5 ส่วน: ทราฟฟิก, การปรับใช้และการใช้งาน, การเชื่อมต่อ, ความปลอดภัย และความปลอดภัยของอีเมล โดยครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 1 ธันวาคม 2024 เราใช้ตัวชี้วัดใหม่ ๆ หลายรายการในปีนี้ รวมถึงทราฟฟิกบอท AI และคลอวเลอร์, ส่วนแบ่งตลาดของโปรแกรมค้นหาและเบราว์เซอร์, การรบกวนการเชื่อมต่อ และโดเมนระดับบนสุด (TLD) ที่ "อันตรายที่สุด" เราใช้วิธีการคำนวณเหมือนเดิมกับของปีที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์สามารถเปรียบเทียบกันได้ แนวโน้มของ 200 ประเทศ/ภูมิภาคสามารถดูได้ในไมโครไซต์ ทั้งนี้ที่ตั้งขนาดเล็กหรือมีกลุ่มประชากรน้อยถูกละเว้น เนื่องจากมีข้อมูลไม่เพียงพอ ตัวชี้วัดบางส่วนแสดงเฉพาะผลทั่วโลก และจะไม่แสดงขึ้นมาหากเลือกประเทศ/ภูมิภาคหนึ่ง
ด้านล่าง เราอธิบายภาพรวมของเนื้อหาที่อยู่ในหัวข้อหลักของ Year In Review (ทราฟฟิก การปรับใช้และการใช้งาน การเชื่อมต่อ ความปลอดภัย และความปลอดภัยของอีเมล) คู่กับข้อสังเกตและข้อสำคัญที่ค้นพบ นอกจากนี้ เรายังเผยแพร่บล็อกโพสต์คู่กัน ซึ่งสำรวจแนวโน้มเกี่ยวกับบริการอินเทอร์เน็ตอันดับต้น
ประเด็นสำคัญและการอภิปรายที่เกี่ยวข้องภายในโพสต์นี้จะให้มุมมองทั่วไปเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถดูได้ในไมโครไซต์ Year in Review เข้าไปที่ไมโครไซต์เพื่อสำรวจชุดข้อมูลและตัวชี้วัดมากมายได้อย่างละเอียดมากขึ้น รวมถึงแนวโน้มที่พบเห็นในประเทศ/ภูมิภาคของคุณ ดูความเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2023 และวิธีเปรียบเทียบกับประเทศ/ภูมิภาคอื่น ๆ ที่น่าสนใจ การสำรวจอินเทอร์เน็ตจากมุมสูงเช่นนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่จะเป็นข้อมูลในการตัดสินใจทุกเรื่อง โดยมองจากความปลอดภัยขององค์กรและลำดับความสำคัญด้าน IT ตลอดจนกลยุทธ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์
แนวโน้มทราฟฟิก
ทราฟฟิกการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเพิ่มขึ้น 17.2% ในปี 2024
จุดต่ำสุดของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตนั่นเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว World Wide Web เริ่มแพร่หลายเป็นกระแสหลักในปี 1994 เนื่องจากการเปิดตัวเบราว์เซอร์ NCSA Mosaic ในช่วงปลายปี 1993 สำหรับระบบปฏิบัติการยอดนิยมต่าง ๆ ซึ่งมาพร้อมการสนับสนุนรูปภาพแบบฝัง ผลที่ตามมาคือ เนื้อหาอินเทอร์เน็ตที่ "หนักขึ้น" (ตรงข้ามกับเนื้อหาข้อความ) กลายเป็นบรรทัดฐาน ประกอบกับการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นผ่านบริการออนไลน์ยอดนิยม และอุตสาหกรรมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) สำหรับผู้บริโภคที่ปรากฏขึ้นมาใหม่ ทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างฉับไว และแนวโน้มดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน
เพื่อประเมินแนวโน้มทราฟฟิกในช่วงที่ผ่านมาสำหรับ Year in Review เราใช้ปริมาณทราฟฟิกรายวันเฉลี่ย (ไม่รวมทราฟฟิกบอท) ตลอดสัปดาห์ที่ 2 ของปีปฏิทิน (วันที่ 8-15 มกราคม) ของปี 2024 เป็นค่าพื้นฐาน (เราใช้สัปดาห์ที่ 2 ของปีปฏิทิน เพื่อรอให้มีคนกลับไปโรงเรียนและไปทำงาน "ตามปกติ" หลังจากช่วงวันหยุดเทศกาลฤดูหนาวและวันปีใหม่ การเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์ที่แสดงในแผนภูมิแนวโน้มทราฟฟิกได้รับการคำนวณเทียบกับค่าพื้นฐาน โดยไม่ได้แสดงถึงปริมาณทราฟฟิกสัมบูรณ์สำหรับประเทศ/ภูมิภาคหนึ่ง เส้นแนวโน้มแสดงค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 7 วัน ซึ่งนำมาใช้เพื่อเกลี่ยการเปลี่ยนแปลงฉับพลันที่เห็นในข้อมูลรายละเอียดรายวัน หากต้องการเปรียบเทียบแนวโน้มทราฟฟิกของปี 2024 กับข้อมูลของปี 2023 และ/หรือที่ตั้งอื่น ๆ คลิกไอคอน "เปรียบเทียบ" ที่มุมขวาบนของกราฟ
ตลอดช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 การเติบโตของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกยังดูไม่สูงนัก โดยอยู่ในช่วง 1 หรือ 2 เปอร์เซ็นต์ข้างใดข้างหนึ่งของค่าพื้นฐานจนถึงกลางเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนั้น การเติบโตเริ่มเพิ่มสูงขึ้นชัดเจน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนพฤศจิกายน เท่ากับการเติบโต 17.2% ในปีนั้น แนวโน้มเช่นนี้คล้ายกับที่เห็นในปี 2023 และ 2022 อย่างที่เราพูดถึงในบล็อกโพสต์ Year in Review ปี 2023
แนวโน้มทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตในปี 2024 ทั่วโลก
ประเทศกลุ่มแอฟริกันตะวันตกอย่าง กินี มีทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้นจากค่าพื้นฐานถึง 350% การขยายจำนวนทราฟฟิกไม่ได้เริ่มจริงจังจนปลายเดือนกุมภาพันธ์ และถึงจุดสูงสุดในต้นเดือนเมษายน การเพิ่มขึ้นยังคงอยู่ระหว่าง 100% และ 200% เหนือค่าพื้นฐานจนกระทั่งเดือนกันยายน ซึ่งเห็นช่วงเวลาการเติบโตหลายสัปดาห์ ในขณะที่ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน จะเห็นว่าทราฟฟิกก็เพิ่มเช่นกันในปี 2023 โดยมีค่าสูงสุดไม่ถึง 90% เหนือค่าพื้นฐาน
อินเทอร์เน็ตล่มส่งผลกระทบอย่างหนัก โดยเห็นได้ชัดเจนเมื่อดูข้อมูลตลอดทั้งปี เหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มครั้งใหญ่ 2 ครั้งในคิวบาทำให้ทราฟฟิกลดลงอย่างมากในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน "การตัดระบบไฟฟ้าทั้งประเทศ" บนเกาะที่รายงานเกิดขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคมกินเวลาถึงราว 3 วัน ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ความเสียหายจากพายุเฮอร์ริเคนราฟาเอลทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในคิวบา ส่งผลให้ทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตลดลงอย่างมากอีกครั้งหนึ่ง ทราฟฟิกยังคงอยู่ในระดับต่ำในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้าของคิวบายังไม่ฟื้นตัว
แนวโน้มทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตในปี 2024 คิวบา
อย่างที่เราพูดถึงอยู่บ่อยครั้งในบล็อก Cloudflare Radar และโพสต์โซเชียลมีเดีย การปิดระบบอินเทอร์เน็ตที่มีสาเหตุจากคำสั่งของรัฐบาลนั้นเกิดขึ้นบ่อยมาก และผลกระทบของการดำเนินการเหล่านี้ยังเห็นได้ชัดเจนเมื่อดูข้อมูลทราฟฟิกระยะยาว ในบังกลาเทศ รัฐบาลสั่งปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือในวันที่ 18 กรกฎาคม เพื่อโต้ตอบการประท้วงของนักศึกษา ไม่นานหลังจากที่ปิดระบบเครือข่ายมือถือ เครือข่ายบรอดแบนด์ประจำที่ก็ถูกสั่งปิดไปด้วย ส่งผลให้ทราฟฟิกจากประเทศดังกล่าวเกือบหายไปเกือบทั้งหมด การเชื่อมต่อค่อย ๆ กลับคืนมาหลังผ่านไปหลายวัน ในระหว่างวันที่ 23-28 กรกฎาคม
แนวโน้มทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตในปี 2024 บังกลาเทศ
เมื่อปีที่แล้ว การฉลองวันหยุดเทศกาลสำคัญยังส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่อทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตในระดับประเทศ เช่น ในประเทศมุสลิม เช่น อินโดนีเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การฉลองอีดุลฟิฏ ซึ่งเป็นเทศกาลละศีลอดจากเดือนรอมฎอน จะเห็นว่าทราฟฟิกลดลงอย่างชัดเจนในช่วงวันที่ 9-10 เมษายน
แนวโน้มทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตในปี 2024 อินโดนีเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
Google ยังคงครองตำแหน่งบริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยมที่สุด OpenAI, Binance, WhatsApp และ Facebook ครองตำแหน่งผู้นำในหมวดหมู่ของตัวเอง
Year In Review ได้จัดอันดับบริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยมที่สุดตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา การจัดอันดับเหล่านี้ครอบคลุมมุมมอง “โดยรวม” รวมถึงบางหมวดหมู่อีกหลายสิบรายการตามการวิเคราะห์ข้อมูลคิวรีของทราฟฟิกที่ไม่ระบุตัวตนที่ขอผ่าน 1.1.1.1 public DNS resolver ของเราจากผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก เพื่อการจัดอันดับเหล่านี้ โดเมนที่เป็นของบริการอินเทอร์เน็ตเดี่ยวจะได้รับการจัดกลุ่มไว้ด้วยกัน
เป็นอีกครั้งที่ Google ครองอันดับสูงสุด เนื่องจากมีบริการมากมาย รวมทั้งความนิยมของระบบปฏิบัติการ Android (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง) ทรัพย์สินของ Meta อย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ก็ยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับแรก
ความนิยมใน Generative AI ยังคงเติบโตต่อเนื่องตลอดปี 2024 และในหมวดหมู่นี้ เป็นอีกครั้งที่ OpenAI ได้ครองอันดับสูงสุด นับเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จและความนิยมต่อเนื่องของ ChatGPT ในแวดวงโซเชียลมีเดีย 5 อันดับแรกยังคงเหมือนกับอันดับของปี 2023 และ 2022 ได้แก่ Facebook, TikTok, Instagram, X และ Snapchat
การจัดอันดับตามหมวดหมู่เหล่านี้ รวมถึงแนวโน้มที่บริการต่าง ๆ มองเห็นจะได้รับการสำรวจรายละเอียดเพิ่มเติมในบล็อกโพสต์แยกต่างหาก จาก ChatGPT ถึง Temu: จัดอันดับบริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยมปี 2024
ทราฟฟิกทั่วโลกจาก Starlink เพิ่มขึ้น 3.3 เท่าในปี 2024 สอดคล้องกับอัตราการเติบโตของปีที่แล้ว หลังจากเริ่มต้นการให้บริการในประเทศมาลาวีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ทราฟฟิก Starlink จากประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้น 38 เท่าในปี 2024
Starlink ของ SpaceX ยังคงเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมชั้นนำ ซึ่งมอบการเชื่อมต่อให้กับบริเวณที่บริการเข้าไม่ถึงหรือพื้นที่ขาดแคลน นอกจากการเปิดตลาดใหม่ในปี 2024 แล้ว Starlink ยังประกาศความสัมพันธ์เพื่อให้บริการการเชื่อมต่อบนเที่ยวบินกับสายการบินหลายแห่ง รวมถึงบนเรือสำราญและรถไฟ ทั้งยังช่วยให้ผู้สมัครใช้งานเดินทางได้อย่างอิสระด้วย Starlink Mini
เราวิเคราะห์ปริมาณทราฟฟิกของ Cloudflare โดยรวมที่สัมพันธ์กับ Autonomous System หลักของ Starlink (AS14593) เพื่อติดตามการเพิ่มจำนวนการใช้บริการตลอดปี 2024 คล้ายกับแนวโน้มทราฟฟิกที่กล่าวถึงไปข้างต้น ปริมาณคำขอที่แสดงบนเส้นแนวโน้มในแผนภูมิแสดงค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 7 วัน การเปรียบเทียบกับข้อมูลปี 2023 สามารถแสดงได้โดยการคลิกไอคอน "เปรียบเทียบ" ที่มุมบนขวาของกราฟ ภายในมุมมองเปรียบเทียบ เส้นจะปรับขนาดตามค่าสูงสุดที่แสดง
ในระดับทั่วโลก ทราฟฟิกมีการเติบโตอย่างคงที่ซึ่งเห็นได้ตลอดทั่วไป โดยเติบโตเร็วขึ้นเป็นพิเศษตลอดเดือนพฤศจิกายน ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนี้อาจมีแรงผลักดันจากกราฟิกที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ของลูกค้าบางราย
การขยายทราฟฟิกของ Starlink ทั่วโลกในปี 2024
หลาย ๆ พื้นที่มีอุปสงค์ความต้องการผู้ให้บริการการเชื่อมต่อ "ทางเลือก" อย่าง Starlink อยู่ไม่น้อย และในประเทศ/ภูมิภาคเหล่านี้ เราจะเห็นการเติบโตของทราฟฟิกอย่างรวดเร็วเมื่อบริการเข้าถึงแล้ว เช่น ในซิมบับเว บริการประกาศเริ่มให้บริการในวันที่ 7 กันยายน และทราฟฟิกจากประเทศเริ่มเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วแทบจะทันทีหลังจากนั้น
การขยายทราฟฟิกของ Starlink ในซิมบับเวในปี 2024
ในตลาดใหม่ ๆ จำนวนทราฟฟิกยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปหลังจากที่เกิดขึ้นในช่วงแรก เช่น เมื่อบริการ Starlink เริ่มให้บริการในมาลาวีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 และตลอดปี 2024 ทราฟฟิกของ Starlink จากประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 38 เท่า การเติบโต 38 เท่าในมาลาวีนั้นน่าประทับใจแล้ว ประเทศอื่น ๆ ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ในประเทศแถบยุโรปตะวันออกอย่างจอร์เจียบริการเริ่มต้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 หลังจากออกตัวอย่างช้า ๆ ทราฟฟิกจึงได้เริ่มพุ่งทะยานสูงขึ้นถึง 100 เท่าตลอดปี 2024 ในปารากวัยบริการประกาศพร้อมใช้งานในวันที่ 21 ธันวาคม และเริ่มเติบโตในช่วงต้นเดือนมกราคม โดยเพิ่มสูงขึ้นถึง 900 เท่าตลอดทั้งปี
การขยายทราฟฟิกของ Starlink ในมาลาวีในปี 2024
Googlebot เป็นที่มาของจำนวนทราฟฟิกคำขอที่ Cloudflare ได้รับสูงที่สุดในปี 2024 โดยบอทนี้ได้รับเนื้อหาจากเว็บไซต์ของลูกค้า Cloudflare นับล้านรายการเพื่อการจัดทำดัชนีการค้นหา
Cloudflare Radar แสดงแนวโน้มทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ในช่วงเวลาที่เลือก แต่แสดงในระดับประเทศ/ภูมิภาค หรือในระดับเครือข่าย อย่างไรก็ตาม เหมือนที่เราทำในปี 2023 เราต้องการดูทราฟฟิกที่ Cloudflare ได้รับตลอดทั้งปีจากอินเทอร์เน็ต IPv4 เพื่อทำเช่นนั้น เราสามารถใช้เส้นโค้ง Hilbert ที่จะช่วยให้เราเห็นภาพลำดับของที่อยู่ IPv4 เป็นรูปแบบ 2 มิติ ซึ่งจับที่อยู่ IP มาไว้ใกล้กัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสำรวจพื้นที่ของที่อยู่ IPv4 ของอินเทอร์เน็ต
เราใช้ Hilbert เพื่อสร้างภาพทราฟฟิกคำขอ IPv4 แบบรวมที่ส่งมายัง Cloudflare ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2024 ในการสร้างภาพ เรารวบรวมที่อยู่ IPv4 ที่ระดับ /20 ซึ่งหมายความว่า ที่ระดับการซูมสูงสุด สี่เหลี่ยมแต่ละรูปแสดงถึงทราฟฟิกจากที่อยู่ IPv4 4,096 รายการ การรวบรวมนี้เป็นไปเพื่อให้สามารถจัดการปริมาณข้อมูลที่ใช้ในการสร้างภาพได้ (แม้ว่าเราอยากจะสร้างภาพที่คล้ายกันสำหรับทราฟฟิก IPv6 แต่ความกว้างใหญ่ของพื้นที่ที่อยู่ IPv6 ทำให้เห็นทราฟฟิกที่เกี่ยวข้องได้ค่อนข้างยากมากในภาพดังกล่าว โดยเฉพาะ ในเมื่อมีทราฟฟิกจำนวนเล็กน้อยที่จัดสรรไว้สำหรับการมอบหมายโดยหน่วยงานทะเบียนอินเทอร์เน็ตประจำภูมิภาค)
ภายในภาพ ที่อยู่ IP ได้รับการจัดกลุ่มตามความเป็นเจ้าของ และสำหรับพื้นที่ที่อยู่ IP ที่เห็นส่วนใหญ่ การวางเมาส์ไว้ที่ระดับซูมเริ่มต้นจะแสดงหน่วยงานทะเบียนอินเทอร์เน็ตประจำภูมิภาค (Regional Internet Registry, RIR) ที่บล็อกที่อยู่นั้นประจำอยู่ อย่างไรก็ตาม ยังมีบล็อกจำนวนหนึ่งที่มอบหมายไว้ก่อนการมีอยู่ของระบบ RIR และบล็อกเหล่านี้จะติดชื่อองค์กรที่เป็นเจ้าของไว้ การซูมเข้าไปจะแสดง Autonomous System และประเทศ/ภูมิภาคที่บล็อกที่อยู่ IP ดังกล่าวเกี่ยวข้อง รวมถึงส่วนแบ่งทราฟฟิกเทียบกับทราฟฟิกสูงสุด (หากเลือกประเทศ/ภูมิภาค จะเห็นเฉพาะบล็อกที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งนั้น) ส่วนแบ่งทราฟฟิกโดยรวมแสดงเป็นการแรเงาตามสเกลสี ถึงแม้จะเห็นบล็อกที่ไม่แรเงาจำนวนมาก แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพื้นที่ที่อยู่ที่เกี่ยวข้องจะว่างเสมอไป แต่หมายความว่า อาจมีการใช้งานในลักษณะที่ไม่ได้สร้างทราฟฟิกมาที่ Cloudflare
เส้นโค้ง Hilbert แสดงทราฟฟิกที่ส่งมายัง Cloudflare ผ่านอินเทอร์เน็ต IPv4 ในปี 2024 โดยรวม
สีโทนอุ่นส้ม/แดงภายในภาพแสดงพื้นที่ที่มีปริมาณคำขอสูง และที่เกาะกลุ่มอยู่ตามหนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวคือบล็อกที่อยู่ IP ที่มีปริมาณคำขอมายัง Cloudflare สูงสุดในระหว่างปี 2024 ในระหว่างปี 2023 บล็อกที่อยู่นี้คือ 66.249.64.0/20 ซึ่งเป็นของ Google และเป็นหนึ่งในหลายบล็อกที่ Web Crawler Googlebot ใช้ในการดึงเนื้อหามาจัดทำดัชนีค้นหา การใช้พื้นที่ที่อยู่ดังกล่าวเป็นที่มาของปริมาณคำขอสูง เมื่อเทียบกับจำนวนทรัพย์สินเว็บในเครือข่ายของ Cloudflare
เมื่อซูมมุมมองเส้นโค้ง Hilbert เข้าไปจะเห็นบล็อกที่อยู่ IPv4 ที่สร้างปริมาณคำขอสูงสุด
นอกจาก Google แล้ว เจ้าของ Prefixes อื่น ๆ ที่ติด 20 อันดับแรก ได้แก่ Alibaba, Microsoft, Amazon และ Apple หากต้องการสำรวจอินเทอร์เน็ต IPv4 ให้ละเอียดกว่านี้ เราขอแนะนำให้คุณเข้าไปที่ไมโครไซต์ Year in Review และสำรวจด้วยตัวเองโดยการลากและซูมเพื่อขยับดูพื้นที่ที่อยู่ IPv4
ในหมู่บอท AI และคลอวเลอร์ทั้งหลาย ทราฟฟิก Bytespider (ByteDance) ค่อย ๆ ลดลงในช่วงปี 2024 ในขณะที่ ClaudeBot (Anthropic) มีกิจกรรมเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
บอทและคลอวเลอร์ AI ปรากฏในพาดหัวข่าวต่าง ๆ ตลอดปี 2024 เนื่องจากการบริโภคเนื้อหาอย่างหนักหน่วงเพื่อนำไปสอนโมเดลที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ความขัดแย้งย่อมตามมา เนื่องจากไม่ใช่บอทและคลอวเลอร์ทั้งหมดที่เคารพข้อเรียกร้องของเจ้าของเนื้อหาที่ขอให้จำกัดกิจกรรมการกวาดข้อมูล ในเดือนกรกฎาคม Cloudflare ช่วยลูกค้าบล็อกบอทและคลอวเลอร์เหล่านี้ด้วยคลิกเดียว และในระหว่างอีเวนต์สัปดาห์วันเกิด เราเปิดตัว AI Audit เพื่อมอบมุมมองให้เจ้าของเว็บไซต์มองเห็นและควบคุมแพลตฟอร์ม AI ที่เข้าถึงเนื้อหาของพวกเขาได้มากขึ้น
การติดตามแนวโน้มทราฟฟิกของบอท AI ช่วยให้เราเข้าใจกิจกรรมของบอทมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยสังเกตได้ว่าบอทตัวใดที่ดุดันที่สุดและมีปริมาณคำขอสูงสุด ตัวใดที่กวาดข้อมูลอยู่เป็นประจำ เป็นต้น กราฟทราฟฟิกบอทและคลอวเลอร์ AI บนหน้าทราฟฟิกของ Radarที่เริ่มเผยแพร่ในเดือนกันยายนให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มทราฟฟิกเหล่านี้ ที่รวบรวมได้ตามช่วงเวลาที่เลือกสำหรับบอท AI อันดับต้น ๆ ที่รู้จักกันดี
เมื่อดูแนวโน้มทราฟฟิกจากบอท 2 ตัวนี้ เราจะเห็นรูปแบบที่น่าสนใจบางอย่าง Bytespider เป็นคลอวเลอร์ที่ดำเนินการโดย ByteDance เจ้าของ TikTok สัญชาติจีน และรายงานว่านำมาใช้เพื่อดาวน์โหลดข้อมูลการสอนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ ByteDance กิจกรรมการกวาดข้อมูลของ Bytespider มีแนวโน้มลดลงตลอดช่วงปี 2024 โดยปลายเดือนพฤศจิกายนมีกิจกรรมต่ำกว่าที่เห็นในช่วงต้นปีประมาณ 80-85% ClaudeBot เป็นคลอวเลอร์ของ Anthropic ที่ดาวน์โหลดข้อมูลการสอนสำหรับ LLM ที่มอบพลังให้กับผลิตภัณฑ์ AI อย่างเช่น Claude เราแทบไม่เห็นทราฟฟิกของ ClaudeBot ปรากฏเลยในช่วงกลางเดือนเมษายน ยกเว้นจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นระลอกเล็ก ๆ ที่อาจแสดงถึงการทดสอบการทำงาน เราเริ่มเห็นทราฟฟิกค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน แต่หลังจากปริมาณพุ่งสูงในช่วงแรก ๆ ก็กลับลดลงเรื่อย ๆ ตลอดช่วงปีที่เหลือ
แนวโน้มทราฟฟิกของคลอวเลอร์ AI Bytespider และ ClaudeBot ในปี 2024
แนวโน้มทราฟฟิกของบอทและคลอวเลอร์ AI ทั้งหมดสามารถดูได้ที่ Cloudflare Radar Data Explorer
ทราฟฟิก TLS 1.3 จำนวน 13.0% ใช้การเข้ารหัสแบบ Post-quantum
คำว่า “Post-Quantum” หมายถึงเทคนิควิทยาการเข้ารหัสลับชุดใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลจากภัยร้ายที่มีความสามารถในการจับและเก็บข้อมูลปัจจุบันไว้เพื่อนำไปถอดรหัสโดยควอนตัมคอมพิวเตอร์ทรงพลังในอนาคต ทีมวิจัย Cloudflare สำรวจวิทยาการเข้ารหัส Post-Quantum มาตั้งแต่ปี 2017
ในเดือนตุลาคม 2022 เราผลักดันข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับ Post-Quantum ในเครือข่ายของเราเป็นค่าเริ่มต้น แต่การบังคับใช้ต้องการการสนับสนุนจากเบราว์เซอร์และไคลเอ็นต์ด้วยเช่นกัน ในปี 2024 เบราวเซอร์ Chrome 124 ของ Google ใช้ข้อตกลงนี้เป็นค่าเริ่มต้นในวันที่ 17 เมษายน และการใช้งานดังกล่าวก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดตัวครั้งนั้น โดยมีคำขอเพิ่มจาก 2% เป็นราว 12% ภายในหนึ่งเดือน และสิ้นเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 13% เราคาดว่าการรับไปใช้จะยังคงเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีและในระหว่างปี 2025 เนื่องจากการสนับสนุนจากเบราว์เซอร์ที่ต่อยอดจาก Chromium อื่น ๆ การขยายการสนับสนุนเป็นค่าเริ่มต้นของ Mozilla Firefox และการเริ่มทดสอบใน Apple Safari
แนวโน้มการเพิ่มจำนวนทราฟฟิก TLS 1.3 ที่เข้ารหัสแบบ Post-Quantum ในระหว่างปี 2024
ข้อมูลเชิงลึกด้านการปรับใช้และการใช้งาน
ทราฟฟิกจากอุปกรณ์มือถือเกือบ 1 ใน 3 ในทั่วโลกนั้นมาจากอุปกรณ์ Apple iOS Android มีส่วนแบ่งทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือ >90% ใน 29 ประเทศ/ภูมิภาค แต่ส่วนแบ่งทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือ iOS มีสัดส่วนสูงสุดคือ 60% ใน 8 ประเทศ/ภูมิภาค
ผู้นำระบบปฏิบัติการมือถือ 2 รายทั่วโลก ได้แก่ iOS ของ Apple และ Android ของ Google และจากการวิเคราะห์ข้อมูลใน User Agent ที่รายงานมากับแต่ละคำขอ เราจะเห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกระจายทราฟฟิกตามระบบปฏิบัติการของไคลเอ็นต์ตลอดทั้งปี อีกครั้ง เราพบว่า Android เป็นที่มาของทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือส่วนใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลจากทั่วโลก เนื่องจากการกระจายสินค้าเป็นวงกว้างในด้านจุดราคา ขนาดและรูปทรงมือถือ และขีดความสามารถ
คล้ายกับผลการสำรวจของปี 2023 เป็นอีกครั้งที่ทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือมากกว่า 2 ใน 3 นั้นมาจาก Android เมื่อเราดูประเทศที่มีทราฟฟิก Android อันดับต้น ๆ เราพบส่วนแบ่งมากกว่า 95% ในซูดาน, บังกลาเทศ, เติร์กเมนิสถาน, มาลาวี, ปาปัวนิวกินี, ซีเรีย และเยเมน เพิ่มขึ้นจากเพียง 2 ประเทศในปี 2023 คล้ายกับปีที่แล้ว เราพบว่าประเทศ/ภูมิภาคที่มีระดับการใช้ Android สูง ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา โอเชียเนีย/เอเชีย และอเมริกาใต้ ซึ่งหลายประเทศมีรายได้มวลรวมประชาชาติต่อหัวประชากรในระดับต่ำ ในประเทศ/ภูมิภาคเหล่านี้ การจำหน่ายอุปกรณ์ Android ราคา "ประหยัด" ช่วยกระตุ้นการนำมาใช้งาน
การกระจายของทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือทั่วโลกตามระบบปฏิบัติการในปี 2024
ในฝั่งตรงกันข้าม การปรับใช้ iOS มีสัดส่วนสูงสุดอยู่ในช่วง 65% ในเจอร์ซี่หมู่เกาะแฟโรว์เกิร์นซีย์ และเดนมาร์ก อัตราการปรับใช้ 50% ขึ้นไปเห็นได้ในทั้งหมด 26 ประเทศ/ภูมิภาค ได้แก่ นอร์เวย์สวีเดนออสเตรเลียญีปุ่นสหรัฐอเมริกา และแคนาดา พื้นที่เหล่านี้มีความสามารถในการซื้ออุปกรณ์ราคาสูงขึ้นได้ เนื่องจากมีรายได้มวลรวมประชาชาติต่อหัวสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน
ประเทศ/ภูมิภาคที่มีส่วนแแบ่งทราฟฟิก iOS มากที่สุดในปี 2024
คำขอเว็บเกือบครึ่งหนึ่งจากทั่วโลกใช้โปรโตคอล HTTP/2 และมี 20.5% ที่ใช้ HTTP/3
HTTP (HyperText Transfer Protocol) เป็นโปรโตคอลหลักที่เว็บใช้งาน HTTP/1.0 เป็นมาตรฐานที่เริ่มใช้ในปี 1996, HTTP/1.1 เริ่มใช้ในปี 1999 และ HTTP/2 เริ่มใช้ในปี 2015 HTTP/3 เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่เสร็จสมบูรณ์ในปี 2022 และทำงานบนโปรโตคอลส่งข้อมูลใหม่ที่เรียกว่า QUIC การทำงานบน QUIC ช่วยให้ HTTP/3 มีประสิทธิภาพดีขึ้นโดยการลดผลของการสูญเสียแพ็กเก็ตและการเปลี่ยนเครือข่าย รวมถึงทำให้เชื่อมต่อได้รวดเร็วขึ้น HTTP/3 ยังมีการเข้ารหัสเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีด้วย
Google Chrome สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือเวอร์ชันปัจจุบัน (และเบราว์เซอร์อื่น ๆ ที่ต่อยอดจาก Chromium), Mozilla Firefox และ Apple Safari ทั้งหมดรองรับ HTTP/3 เป็นค่าเริ่มต้น Cloudflare ให้บริการ HTTP/3 ฟรีแก่ลูกค้าของเราทุกราย ถึงแม้ว่าไม่ใช่ลูกค้าทั้งหมดที่เปิดใช้งาน
การวิเคราะห์เวอร์ชัน HTTP ที่ต่อรองสำหรับแต่ละคำขอให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกระจายทราฟฟิกตามเวอร์ชันต่าง ๆ ของโปรโตคอลที่รวบรวมมาตลอดทั้งปี (“HTTP/1.x” รวมคำขอที่ส่งผ่าน HTTP/1.0 และ HTTP/1.1) ในระดับโลก คำขอ 20.5% ในปี 2024 ใช้ HTTP/3 คำขออีก 29.9% ใช้ HTTP/1.x ที่เป็นเวอร์ชันเก่ากว่า ในขณะที่ HTTP/2 ยังครองส่วนแบ่งส่วนใหญ่ โดยคิดเป็นสัดส่วน 49.6%
การกระจายของทราฟฟิกทั่วโลกตามเวอร์ชัน HTTP ในปี 2024
เมื่อดูการกระจายของเวอร์ชันตามภูมิศาสตร์ เราพบว่ามี 8 ประเทศ/ภูมิภาคที่ส่งคำขอผ่าน HTTP/3 มากกว่า 1 ใน 3 โดยเรอูเนียงศรีลังกามองโกเลียกรีซ และมาซิโดเนียเหนือ ครอง 5 อันดับแรกดังที่แสดงด้านล่าง อีก 8 ประเทศ/ภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงอิหร่านไอร์แลนด์ฮ่องกง และจีน ส่งคำขอผ่าน HTTP/1.x มากกว่าครึ่งหนึ่งตลอดปี 2024 คำขอมากกว่าหนึ่งใช้ HTTP/2 ในทั้งหมด 147 ประเทศ/ภูมิภาค
ประเทศ/ภูมิภาคที่มีส่วนแบ่งทราฟฟิก HTTP/3 สูงสุดในปี 2024
React, PHP และ jQuery ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยียอดนิยมที่สุดสำหรับการสร้างเว็บไซต์ ในขณะที่ HubSpot, Google และ WordPress เป็นผู้ให้บริการยอดนิยมที่สุดสำหรับบริการและแพลตฟอร์มสนับสนุน
เว็บไซต์และแอปพลิเคชันสมัยใหม่มีความซับซ้อนสูง โดยสร้างบนและผสมผสานเฟรมเวิร์ก แพลตฟอร์ม บริการ และเครื่องมือมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่น นักพัฒนาต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าองค์ประกอบเหล่านี้อยู่ร่วมกันได้อย่างดี เราใช้ URL Scanner ของ Cloudflare Radar ในการสแกนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับโดเมน 5,000 อันดับแรก เพื่อหาเทคโนโลยีและบริการยอดนิยมที่สุดที่ใช้กันในหมวดหมู่ต่าง ๆ กว่าสิบรายการ
เมื่อดูเทคโนโลยีหลัก ๆ ที่ใช้สร้างเว็บไซต์ React เป็นผู้นำเหนือ Vue.js และเฟรมเวิร์ก JavaScript อื่น ๆ ส่วน PHP เป็นเทคโนโลยีเขียนโปรแกรมยอดนิยมที่สุด และส่วนแบ่งของ jQuery เป็นที่นิยมมากกว่าไลบรารี JavaScript ยอดนิยมอื่น ๆ ถึง 10 เท่า
เว็บไซต์และแอปพลิเคชันยังใช้บริการและแพลตฟอร์มที่สนับสนุนสิ่งต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ การจัดการเนื้อหา และระบบการตลาดอัตโนมัติด้วย Google Analytics ครองตำแหน่งผู้ให้บริการการวิเคราะห์ที่ใช้งานกันกว้างขวางที่สุด โดย WordPress มีส่วนแบ่งของระบบการจัดการเนื้อหามากกว่า 50% และสำหรับผู้ให้บริการการตลาดอัตโนมัติ ผู้นำอย่าง HubSpot มีส่วนแบ่งการใช้งานเกือบ 2 เท่าของ Marketo และ MailChimp
เทคโนโลยีเว็บไซต์ติดอันดับ, หมวดหมู่เฟรมเวิร์ก JavaScript ในปี 2024
Go แซงหน้า NodeJS ในฐานะภาษายอดนิยมที่สุดที่ใช้สำหรับการสร้างคำขอ API อัตโนมัติ
เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่มีลูกเล่นมากมายสร้างด้วยการเรียกใช้ API อัตโนมัติ และเราสามารถใช้การมองเห็นเฉพาะของเราสำหรับทราฟฟิกเว็บเพื่อระบุภาษาอันดับต้นที่ใช้เขียนไคลเอ็นต์ API เหล่านี้ เราใช้แนวทาง Heuristics กับคำขอที่เกี่ยวข้องกับ API ที่ประเมินว่าไม่ได้มาจากมนุษย์ โดยใช้เบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันมือถือแบบเนทีฟเพื่อช่วยเราระบุภาษาที่ใช้สร้างไคลเอ็นต์ API
การวิเคราะห์ของเราพบว่าคำขอ API อัตโนมัติเกือบ 12% นั้นมาจากไคลเอ็นต์ที่ใช้ภาษา Go โดยที่ NodeJS, Python, Java และ .NET มีส่วนแบ่งที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับปี 2023 ส่วนแบ่งของ Go เพิ่มขึ้นราว 40% จนขึ้นมาครองตำแหน่งสูงสุดในขณะที่ส่วนแบ่งของ NodeJS ลดลงมากกว่า 30% Python และ Java ยังได้ส่วนแบ่งเพิ่มขี้นด้วย ในขณะที่ส่วนแบ่งของ .NET ลดลง
ภาษาไคลเอ็นต์ API ยอดนิยมที่สุดในปี 2024
Google เป็นโปรแกรมค้นหายอดนิยมที่สุดทั่วโลกในทุกแพลตฟอร์ม บนอุปกรณ์มือถือ/OS ถือได้ว่า Baidu ตามเป็นอันดับ 2 อยู่ไกล ๆ Bing ตามมาไกล ๆ เป็นอันดับ 2 ในหมู่อุปกรณ์เดสก์ท็อปและ Windows ส่วน DuckDuckGo เป็นอันดับ 2 สำหรับ macOS
สำหรับการปกป้องและเร่งความเร็วเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้กับลูกค้านับล้านคน Cloudflare อยู่ในตำแหน่งที่ดีต่อการวัดข้อมูลส่วนแบ่งตลาดของโปรแกรมค้นหา วิธีการของเราใช้ referer header ของ HTTP ในการระบุทราฟฟิกที่ส่งโปรแกรมค้นหามายังเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของลูกค้า ข้อมูลส่วนแบ่งตลาดแสดงเป็นข้อมูลโดยรวม รวมถึงแบ่งตามประเภทอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการด้วย (ประเภทอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการได้มาจากส่วนหัวของ User-Agent และ Client Hints ที่มากับคำขอเนื้อหา)
เมื่อรวมข้อมูลในระดับทั่วโลก Google อ้างอิงอยู่ในทราฟฟิกที่ส่งมายังลูกค้าของ Cloudflare มากที่สุด โดยมีส่วนแบ่งมากกว่า 88% ตลอดปี 2024 Yandex, Baidu, Bing และ DuckDuckGo ติด 5 อันดับแรก แต่มีตัวเลขส่วนแบ่งเพียงหลักเดียวเท่านั้น
ส่วนแบ่งตลาดโปรแกรมค้นหาโดยรวมทั่วโลกในปี 2024
อย่างไรก็ตาม หากลองเจาะลงตามที่ตั้งหรือแพลตฟอร์ม เราจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในโปรแกรมค้นหาอันดับต้นและส่วนแบ่งของโปรแกรมเหล่านั้น เช่น ในเกาหลีใต้ Google มีการอ้างถึงเพียง 2 ใน 3 ในขณะที่แพลตฟอร์มท้องถิ่น Naver คิดเป็น 29.2%, ส่วนพอร์ทัลท้องถิ่น Daum ยังติด 5 อันดับแรกด้วยส่วนแบ่ง 1.3%
ส่วนแบ่งตลาดโปรแกรมค้นหาโดยรวมในเกาหลีใต้ในปี 2024
การครองตลาดของ Google ถูกเบียดไปเล็กน้อยบนอุปกรณ์ Windows โดยมีการอ้างถึงเพียง 80% ของทั่วโลก ไม่น่าแปลกใจที่ Bing เข้ามาครองที่ 2 สำหรับผู้ใช้ Windows โดยมีส่วนแบ่ง 10.4% Yandex, Yahoo และ DuckDuckGo ตามมาอยู่ใน 5 อันดับแรก โดยทั้งหมดมีส่วนแบ่งน้อยกว่า 5%
ส่วนแบ่งตลาดโปรแกรมค้นหาโดยรวมทั่วโลกสำหรับอุปกรณ์ Windows ในปี 2024
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงโปรแกรมค้นหาที่รวมอยู่ใน “อื่น ๆ” โปรดดูรายงานการอ้างอิงโปรแกรมค้นหาประจำไตรมาสใน Cloudflare Radar
Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์ยอดนิยมที่สุดโดยรวม ถึงแม้จะเป็นที่นิยมมากที่สุดในอุปกรณ์ macOS ด้วย แต่การใช้งาน Safari นั้นสูงกว่าการใช้ Chrome อย่างมากในอุปกรณ์ iOS ในอุปกรณ์ Windows เบราว์เซอร์ Edge ครองตำแหน่งที่ 2 ของเบราว์เซอร์ยอดนิยมที่สุด
คล้ายกับความสามารถของเราในการวัดส่วนแบ่งตลาดของโปรแกรมค้นหา Cloudflare ยังมีสถานะที่เหมาะกับการวัดส่วนแบ่งตลาดของเบราว์เซอร์ด้วย เราใช้ข้อมูลจากส่วนหัวของ User-Agent และ Client Hints เพื่อระบุเบราว์เซอร์ที่ส่งคำขอเนื้อหามาพร้อมกับระบบปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลส่วนแบ่งตลาดเบราวเซอร์แสดงเป็นข้อมูลโดยรวม รวมถึงแบ่งตามประเภทอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการด้วย หมายเหตุ ส่วนแบ่งของเบราว์เซอร์ที่ใช้ได้ทั้งในเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือ เช่น Chrome หรือ Safari นำเสนอเป็นข้อมูลรวม
ทั่วโลก เราพบว่าคำขอ 65.8% มาจากเบราว์เซอร์ Chrome ของ Google ตลอดปี 2024 และมีเพียง 15.5% เท่านั้นที่มาจากเบราว์เซอร์ Safari ของ Apple Microsoft Edge, Mozilla Firefox และเบราว์เซอร์ Samsung Internet ติด 5 อันดับแรก โดยทั้งหมดมีส่วนแบ่งต่ำกว่า 10%
ส่วนแบ่งตลาดของเว็บเบราว์เซอร์ทั่วโลกโดยรวมในปี 2024
คล้ายกับสถิติของโปรแกรมค้นหาที่พูดถึงไปข้างต้น ความแตกต่างจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อเราเจาะลึกในระดับพื้นที่หรือแพลตฟอร์ม ในบางประเทศที่ iOS มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Android เบราว์เซอร์ Chrome ยังคงเป็นเบราว์เซอร์แถวหน้า แต่มีส่วนต่างน้อยกว่ามาก ตัวอย่างเช่น ในสวีเดน ส่วนแบ่งของ Chrome ลดลงมาอยู่ที่ 56.2% ในขณะที่ Safari เพิ่มขึ้นเป็น 22.5% ในนอร์เวย์ Chrome ลดลงมาเหลือเพียง 50% ส่วน Safari เพิ่มขึ้นเป็น 25.6%
ส่วนแบ่งตลาดของเว็บเบราว์เซอร์โดยรวมในนอร์เวย์ในปี 2024
เนื่องจาก Apple Safari เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นที่ติดตั้งมากับเครื่อง iOS ดังนั้นจึงเป็นเบราว์เซอร์ยอดนิยมที่สุดสำหรับอุปกรณ์ iOS โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึง 81.7% ตลอดทั้งปี ในขณะที่ Chrome มีเพียง 16.1% ส่วนในอุปกรณ์ Windows ถึงแม้ Edge จะเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นที่ติดตั้งมากับเครื่อง แต่กลับมีส่วนแบ่งเพียง 17.3% เมื่อเทียบกับ Chrome อยู่ที่ 68.5%
ส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์โดยรวมทั่วโลกสำหรับอุปกรณ์ iOS ในปี 2024
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงเบราว์เซอร์ที่รวมอยู่ใน “อื่น ๆ” โปรดดูรายงานส่วนแบ่งตลาดของเบราว์เซอร์ใน Cloudflare Radar
การเชื่อมต่อ
ได้เกิดเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มครั้งใหญ่ 225 ครั้งทั่วโลกในปี 2024 หลายเหตุการณ์มีสาเหตุจากการปิดระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากคำสั่งของรัฐบาลทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค
ตลอดปี 2024 เช่นเดียวกับที่เราทำมาตลอดหลายปี เราเขียนถึงเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะสายเคเบิลถูกตัดขาด, ปัญหาทางเทคนิคที่ระบุไม่ได้, การปิดระบบตามคำสั่งของรัฐบาล หรือสาเหตุอื่น ๆ มากมายที่ครอบคลุมอยู่ในโพสต์สรุปประจำไตรมาส (ไตรมาสที่ 1, ไตรมาสที่ 2, ไตรมาสที่ 3) ของเรา ผลจากระบบล่มเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างมาก รวมทั้งการสูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลและการจำกัดการสื่อสารอย่างร้ายแรง Cloudflare Radar Outage Center ติดตามเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มเหล่านี้ และใช้ข้อมูลทราฟฟิกของ Cloudflare เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับขอบเขตและระยะเวลา
ระบบล่มบางส่วนที่เห็นตลอดทั้งปีกินเวลาเพียงสั้น ๆ ไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่หลาย ๆ ครั้งยืดเยื้อนานหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ตัวอย่างเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มยาวนานเกิดขึ้นในเฮติ ซึ่งลากยาวถึง 8 วันในเดือนกันยายน เพราะช่างซ่อมถูกขัดขวางไม่ให้ประเมินสายเคเบิลใต้น้ำที่เสียหายเนื่องจากข้อพิพาททางธุรกิจ ส่วนการปิดระบบผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมือถือและอินเทอร์เน็ตประจำที่ในบังกลาเทศยาวนานถึงประมาณ 10 วันในเดือนกรกฎาคม สำหรับอินเทอร์เน็ตที่ล่มเพียงสั้น ๆ เช่น อิหร่านมีการปิดระบบอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศหลายชั่วโมง โดยมีเจตนาเพื่อป้องกันการโกงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เหตุการณ์เหล่านี้มีส่วนแสดงให้เห็นกลุ่มข้อมูลที่เกาะกันในเส้นเวลาในช่วงเดือนมิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน
บนเส้นเวลาในไมโครไซต์ของ Year in Review การวางเมาส์ไว้เหนือจุดจะแสดงข้อมูลเมตาเกี่ยวกับระบบล่ม และการคลิกจะเปิดหน้าที่มีข้อมูลเพิ่มเติม ใต้แผนที่และเส้นเวลา เรายังเพิ่มกราฟแท่งแสดงเหตุผลที่บันทึกไว้ ซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มที่เห็น ในปี 2024 ระบบล่มมากกว่าครึ่งมีสาเหตุจากการสั่งปิดระบบของรัฐบาล การเลือกประเทศ/ภูมิภาคจะแสดงเฉพาะเหตุการณ์และเหตุผลของประเทศ/ภูมิภาคนั้น
ทั่วโลกเกิดเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มมากกว่า 200 ครั้งในช่วงปี 2024
จากการรวบรวมข้อมูลตลอดปี 2024 คำขอที่ใช้ IPv6 ได้ 28.5% เป็นการส่งผ่านระบบ IPv6 อินเดียและมาเลเซียเป็นประเทศที่มาแรงที่สุด โดยมีการปรับใช้ IPv6 คิดเป็นสัดส่วน 68.9% และ 59.6% ตามลำดับ
อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากมายยังคงใช้โปรโตคอล IPv4 ที่พัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยไม่ได้คาดหมายว่าจะต้องรองรับอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ที่มีการใช้งานกว้างขวางและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลจำเพาะเบื้องต้นของรุ่นสืบทอด ซึ่งได้แก่ IPv6 มีการเผยแพร่ในเดือนธันวาคม 1995 และพัฒนาจนกลายเป็นร่างมาตรฐาน ในอีก 3 ปีให้หลัง เพื่อตระเตรียมพื้นที่ที่อยู่ที่กว้างขวางขึ้น ซึ่งมีเจตนาที่จะรองรับการเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่คาดหมายไว้ ถึงจุดนี้ พื้นที่ที่มีของ IPv4 นั้นหมดไปนานแล้ว และผู้ให้บริการการเชื่อมต่อใช้โซลูชันต่าง ๆ เช่น Network Address Translation ในการขยายทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของ IPv4 ผู้ให้บริการระบบคลาวด์และโฮสติ้งยังคงต้องการพื้นที่ที่อยู่ IPv4 เพื่อทำธุรกิจและขยายโครงสร้างพื้นฐาน ถึงกับยอมซื้อบล็อกของพื้นที่ที่อยู่ IPv4 ในราคาถึง \$30 - \$50 ต่อที่อยู่เลยทีเดียว
Cloudflare ให้การสนับสนุนที่เห็นเด่นชัดและเป็นไปอย่างแข็งขันสำหรับ IPv6 มาตั้งแต่ปี 2011 ตอนที่เราประกาศ Automatic IPv6 Gateway ของเรา เพื่อให้การรองรับ IPv6 ฟรีแก่ลูกค้าทุกรายของเรา ในปี 2014 เราให้การรองรับ IPv6 เป็นค่าเริ่มต้นสำหรับลูกค้าทั้งหมดของเรา แต่ไม่ใช่ลูกค้าทั้งหมดที่เลือกเปิดใช้งานด้วยหลาย ๆ เหตุผล ข้อสังเกตคือ การสนับสนุนฝั่งเซิร์ฟเวอร์มีส่วนในการผลักดันการปรับใช้ IPv6 เพียงครึ่งทางเท่านั้น และการเชื่อมต่อของผู้ใช้ปลายทางจำเป็นต้องให้การสนับสนุนด้วย (ในความเป็นจริง เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนกว่านั้น แต่การสนับสนุนของฝั่งเซิร์ฟเวอร์และฝั่งไคลเอ็นต์ครอบคลุมทั้งแอปพลิเคชัน ระบบปฏิบัติการ และสภาพแวดล้อมเครือข่ายเป็นสิ่งจำเป็นหลัก 2 ประการ จากมุมมองเครือข่าย การใช้ IPv6 นั้นมีประโยชน์มากมาย) เราวิเคราะห์เวอร์ชัน IP ที่ใช้กับแต่ละคำขอที่ส่งมาที่ Cloudflare และรวบรวมตลอดทั้งปี ทำให้เราได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกระจายของทราฟฟิกตามเวอร์ชันของโปรโตคอล
ที่ระดับโลก มีคำขอที่ใช้กับ IPv6 ได้ (“dual-stack”) อยู่ 28.5% ผ่าน IPv6 โดยเพิ่มขึ้นจาก 26.4% เมื่อปี 2023 อีกครั้งที่อินเดียเป็นประเทศที่ปรับใช้ IPv6 ในระดับสูงสุดที่ 68.9% ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก การใช้งาน IPv6 ของ Reliance Jio ถึง 94% ทั้งนี้ Reliance Jio เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่ตามอินเดียมาติด ๆ คือ มาเลเซีย ซึ่งมีคำขอ dual-stack 59.6% ผ่าน IPv6 ในระหว่างปี 2024 นั่นก็เพราะอัตราการปรับใช้ IPv6 ที่สูงในหมู่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในประเทศ การปรับใช้ IPv6 ในอินเดียเพิ่มขึ้นจาก 66% ใน 2023 และในมาเลเซียตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจาก 57.3% ในปีที่แล้วซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการปรับใช้ IPv6 มากกว่า 50% ในปีนี้ มาอยู่ที่ 51.8% ประเทศอื่น ๆ ยังรวมถึง เวียดนามกรีซฝรั่งเศสอุรุกวัย และประเทศไทยในปี 2023 34 ประเทศ/ภูมิภาค รวมถึงหลายประเทศในแอฟริกายังมีอัตราการปรับใช้ IPv6 ต่ำกว่า 1% ในขณะที่ 96 ประเทศ/ภูมิภาคมีอัตราการปรับใช้ต่ำกว่า 10%
การกระจายของทราฟฟิกทั่วโลกตามเวอร์ชัน IP ในปี 2024
ประเทศ/ภูมิภาคที่มีส่วนแบ่งทราฟฟิก IPv6 สูงสุดในปี 2024
ประเทศ 10 อันดับแรกที่จัดอันดับตามความเร็วอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดมีอัตราการดาวน์โหลดเฉลี่ยมากกว่า 200 Mbps สเปนยังครองตำแหน่งต้น ๆ อย่างต่อเนื่องจากตัวชี้วัดคุณภาพอินเทอร์เน็ตที่ใช้วัดทุกข้อ
ในขณะที่กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเราเป็นแบบออนไลน์ ทั้งความบันเทิง การทำงาน การศึกษา การเงิน การซื้อของ และแม้แต่การติดต่อส่วนตัวและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมพื้นฐาน จึงเถียงไม่ได้เลยว่า คุณภาพของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้นยิ่งสำคัญมากกว่าที่เคย โดยเราต้องการความเร็วการเชื่อมต่อสูงและเวลาแฝงต่ำ ถึงแม้ว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะคอยพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์บริการเพื่อเสนอความเร็วการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นและลดเวลาแฝงลง เพื่อรองรับการเติบโตของการใช้งานต่าง ๆ เช่น การประชุมผ่านวิดีโอ การไลฟ์สตรีม และการเล่นเกมออนไลน์ แต่การปร้บใช้ของผู้บริโภคยังแตกต่างกันไป เนื่องจากราคา ความพร้อมใช้งาน หรือประเด็นอื่น ๆ จากการรวบรวมผลการทดสอบ speed.cloudflare.com ในช่วงปี 2024 เราจะได้เห็นมุมมองตามภูมิประเทศเกี่ยวกับตัวชี้วัดคุณภาพการเชื่อมต่อ รวมถึงความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดและอัปโหลด และเวลาแฝงเฉื่อย (idle latency) และเวลาแฝงขณะโหลด (Loaded latency) รวมถึงการกระจายของการวัด
ในปี 2024 สเปนเป็นผู้นำของตัวชี้วัดด้านความเร็วดาวน์โหลด (292.6 Mbps) และความเร็วอัปโหลด (192.6 Mbps) และเป็นที่ 2 ด้านเวลาแฝงขณะโหลด (78.6 ms) จากทั่วโลก (เวลาแฝงขณะโหลดคือเวลาไปกลับเมื่อใช้งานแอปพลิเคชันที่มีข้อมูลหนาแน่นในเครือข่าย) ความเป็นผู้นำของสเปนในตัวชี้วัดด้านคุณภาพการเชื่อมต่อเหล่านี้มาจากพัฒนาการรุดหน้าของประเทศในการปฏิบัติตามเป้าหมาย "ทศวรรษแห่งดิจิทัล" ของ EU รวมถึงการมีเครือข่ายความสามารถสูงมากแบบประจำที่ (VHCN), ความครอบคลุมของการติดตั้งไฟเบอร์ในสถานที่ (FTTP) และความครอบคลุมของสัญญาณ 5G โดย 2 อย่างหลังนี้มีสัดส่วนถึง 95.2% และ 92.3% ตามลำดับ การเชื่อมต่อบรอดแบนด์ผ่านใยแก้วความเร็วสูงยังมีราคาค่อนข้างถูก โดยรายงานค้นคว้าพบว่าผู้ให้บริการรายใหญ่เสนอแพ็กเกจความเร็ว 100 Mbps, 300 Mbps, 600 Mbps และ 1 Gbps โดยแพ็กเกจ 1 Gbps มีราคาระหว่าง 30 และ 46 ยูโรต่อเดือน ตัวเลขด้านล่างสำหรับสเปนแสดงให้เห็นกลุ่มการวัดความเร็วที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ราว 100 Mbps และเห็นจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ราว 300 Mbps ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแพ็กเกจ 100 Mbps มีอัตราการใช้บริการสูงสุด ตามมาด้วยแพ็กเกจ 300 Mbps นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าการเชื่อมต่อเหล่านี้มีเวลาแฝงค่อนข้างต่ำ โดยการวัดเวลาแฝงเฉื่อย 87% ต่ำกว่า 50 มิลลิวินาที และการวัดเวลาแฝงขณะโหลด 65% ต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที ผู้ใช้จึงได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมและการประชุมผ่านวิดีโอ/การสตรีมที่ดีเยี่ยม
การกระจายของความเร็วดาวน์โหลด/อัปโหลดที่วัดได้ในสเปนในปี 2024
การกระจายของเวลาแฝงเฉื่อย/เวลาแฝงขณะโหลดที่วัดได้ในสเปนในปี 2024
ทราฟฟิกทั่วโลก 41.3% มาจากอุปกรณ์มือถือ ในเกือบ 100 ประเทศ/ภูมิภาค ทราฟฟิกส่วนใหญ่มาจากอุปกรณ์มือถือ
ประชากรในโลกใช้สมาร์ทโฟนประมาณ 70% และชาวอเมริกัน 91% เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน อุปกรณ์มือถือเหล่านี้จึงกลายเป็นส่วนสำคัญทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้เราเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้แทบทุกที่ทุกเวลา ในบางประเทศ/ภูมิภาค อุปกรณ์มือถือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi เป็นหลัก ส่วนประเทศ/ภูมิภาคอื่น ๆ เรียกว่า "เน้นมือถือ" โดยบริการสัญญาณ 4G/5G เป็นวิธีการหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
การวิเคราะห์ข้อมูลที่มี User Agent รายงานมาสำหรับคำขอที่ส่งมาให้ Cloudflare ช่วยเราจัดหมวดหมู่ได้ว่าคำขอมาจากมือถือ เดสก์ท็อป หรืออุปกรณ์ประเภทอื่น การรวบรวมหมวดหมู่เหล่านี้ตลอดทั้งปีในระดับโลก ทำให้เราเห็นว่าทราฟฟิก 41.3% มาจากอุปกรณ์มือถือ โดยที่อีก 58.7% มาจากอุปกรณ์เดสก์ท็อป เช่น แล็ปท็อปและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบ "คลาสสิก" ส่วนแบ่งทราฟฟิกเหล่านี้สอดคล้องกับค่าที่วัดได้เมื่อปี 2023 และ 2022 ซึ่งบ่งชี้ว่าการใช้งานอุปกรณ์มือถือมาถึงช่วง "สถานะคงที่" แล้ว ทราฟฟิกมากกว่า 77% มาจากอุปกรณ์มือถือในซูดานคิวบา และซีเรีย ประเทศเหล่านี้จึงเป็นประเทศ/ภูมิภาคที่มีส่วนแบ่งทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือมากที่สุดในปี 2024 ประเทศ/ภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีทราฟฟิกมากกว่า 50% มาจากอุปกรณ์มือถือพบได้ในแถบตะวันออกกลาง/แอฟริกา เอเชียแปซิฟิก และอเมริกาใต้/กลาง
การกระจายของทราฟฟิกทั่วโลกตามประเภทอุปกรณ์ในปี 2024
ประเทศ/ภูมิภาคที่มีส่วนแบ่งทราฟฟิกอุปกรณ์มือถือที่ใช้มากที่สุดในปี 2024
การเชื่อมต่อ TCP ถึง 20.7% หยุดทำงานอย่างไม่คาดคิดก่อนที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์
Cloudflare มีตำแหน่งเฉพาะไม่ซ้ำใครเพื่อช่วยวัดสภาพและพฤติกรรมของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก วิธีหนึ่งที่เราใช้คือการคอยวัดอัตราการเชื่อมต่อมายัง Cloudflare ซึ่งดูผิดปกติ (anomalous) กล่าวคือเป็นการเชื่อมต่อที่ยกเลิกไปอย่างไม่คาดคิดก่อนที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สาเหตุเบื้องหลังของความผิดปกติในการเชื่อมต่อนั้นมีมากมาย โดยมีตั้งแต่การโจมตี DoS จนถึงพฤติกรรมไคลเอ็นต์ผิดปกติ หรือการก่อกวนการเชื่อมต่อของบุคคลภายนอก (เช่น เมื่อเครือข่ายตรวจสอบและเลือกแทรกแซงการเชื่อมต่อเพื่อกรองเนื้อหา)
ความผิดปกติของการเชื่อมต่อเป็นอาการ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า "สิ่งผิดปกติ" กำลังเกิดขึ้นในเครือข่าย แต่ต้นเหตุเบื้องหลังอาจไม่ได้เห็นชัดเจนในทันที อย่างไรก็ตาม เราจะเข้าใจได้ดีขึ้นเมื่อรวมพฤติกรรมเครือข่ายที่รายงานก่อนหน้านี้ การวัดอย่างต่อเนื่องและรายงานภาคสนาม รวมถึงแนวโน้มมหภาคทั่วเครือข่าย รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ดังกล่าวสามารถพบได้ในบล็อกโพสต์เรื่อง การประเมินการก่อกวนการเชื่อมต่อภายนอกทั่วโลกและการเจาะข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการหมดเวลาและการรีเซ็ต TCP ใน Cloudflare Radar
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความผิดปกติในการเชื่อมต่อ TCP มีเผยแพร่ทาง Cloudflare Radar ในเดือนกันยายน โดยเส้นในกราฟที่เกี่ยวข้องแสดงระยะการเชื่อมต่อ TCP ที่การเชื่อมต่อถูกตัดขาดอย่างผิดปกติ (ตามตัวย่อ ข้อความ 3 ประเภทเราที่เรามักได้รับจากไคลเอ็นต์ในการเชื่อมต่อ TCP คือแพ็กเก็ต “SYN” และ “ACK” เพื่อเริ่มการเชื่อมต่อ จากนั้นแพ็กเก็ต “PSH” ใช้ระบุทรัพยากรที่ร้องขอ) จากการรวบรวมทั่วโลก การเชื่อมต่อมากกว่า 20% ที่มาถึง Cloudflare ถูกยกเลิกอย่างไม่คาดคิด โดยสัดส่วนส่วนใหญ่ (เกือบครึ่งหนึ่ง) มาจากการปิด “Post SYN” นั่นก็คือหลังจากที่เซิร์ฟเวอร์ของเราได้รับแพ็กเก็ต SYN ของไคลเอ็นต์แต่ก่อนที่เราจะได้รับการรับทราบ (ACK) ที่ตามมาจากไคลเอ็นต์หรือก่อนที่จะได้รับข้อมูลซึ่งตามมาจากการรับทราบ การยกเลิกเหล่านี้มักมีสาเหตุจากการโจมตี DoS หรือการสแกนอินเทอร์เน็ต ความผิดปกติที่ Post-ACK (3.1% ทั่วโลก) และ Post-PSH (1.4% ทั่วโลก) มักเกี่ยวข้องกับการก่อกวนการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นเป็นอัตราสูงในเครือข่ายบางเครือข่าย
แนวโน้มความผิดปกติในการเชื่อมต่อ TCP ตามระยะในปี 2024
ความปลอดภัย
ระบบ Cloudflare ยับยั้งทราฟฟิกทั่วโลก 6.5% เนื่องจากมีโอกาสเป็นทราฟฟิกมุ่งร้ายหรือตามเหตุผลที่ลูกค้ากำหนด
เพื่อปกป้องลูกค้าจากภัยคุกคามที่มาจากบอทมุ่งร้ายที่นำมาใช้โจมตีเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Cloudflare จึงยับยั้งทราฟฟิกการโจมตีเหล่านี้ผ่านเทคนิคการลดความเสี่ยง DDoS หรือกฎ Web Application Firewall (WAF) แบบมีการจัดการ มีเหตุผลอีกมากมายที่ลูกค้าต้องการให้ Cloudflare ยับยั้งทราฟฟิกโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น คำขอการจำกัดอัตรา หรือการบล็อกทราฟฟิกทั้งหมดจากตำแหน่งที่กำหนด ถึงแม้จะไม่ได้มีลักษณะมุ่งร้ายก็ตาม ในการวิเคราะห์ทราฟฟิกในเครือข่าย Cloudflare ตลอดปี 2024 เราจะเห็นส่วนแบ่งโดยรวมที่ถูกยับยั้งด้วยเหตุผลใด ๆ รวมถึงส่วนแบ่งที่ถูกบล็อกเนื่องจากเป็นการโจมตี DDoS หรือตามกฎ WAF แบบมีการจัดการ
ในปี 2024 มีทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งไป 6.5% จากทราฟฟิกทั่วโลก เพิ่มขึ้นเกือบ 1% จากปี 2023 มีเพียง 3.2% ที่เป็นการยับยั้งการโจมตี DDoS หรือตามกฎ WAF แบบมีการจัดการ ซึ่งมีอัตราสูงกว่าปี 2023 เล็กน้อย ทราฟฟิกมากกว่า 10% ที่มาจาก 44 ประเทศ/ภูมิภาคถูกยับยั้งโดยทั่วไป ในขณะที่การยับยั้งของ DDoS/WAF นำมาใช้กับการยับยั้งทราฟฟิก 10% ที่มาจาก 7 ประเทศ/ภูมิภาคเท่านั้น
ในระดับประเทศ/ภูมิภาค แอลบาเนียมีส่วนแบ่งทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งสูงสุดตลอดปี คิดเป็น 42.9% ในขณะที่ลิเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีส่วนแบ่งทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งสูงสุดเพราะเป็นการโจมตี DDoS หรือโดยกฎ WAF แบบมีการจัดการอยู่ที่ 19.2% ในบล็อกโพสต์ Year in Review ของปี 2023 เรามุ่งเน้นที่สหรัฐอเมริกาและเกาหลี ในปีนี้ ส่วนแบ่งของทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งเพิ่มขึ้นเป็น 5.0% ในสหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้นจาก 3.65% ในปี 2023) ส่วนเกาหลีใต้ ตัวเลขลดลงเล็กน้อยเป็น 8.1% ลดลงจาก 8.36%
แนวโน้มทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งทั่วโลกในปี 2024
ทราฟฟิกบอทมากกว่า 1 ใน 3 นั้นมาจากสหรัฐอเมริกา Amazon Web Services เป็นที่มาของทราฟฟิกบอททั่วโลก 12.7% และอีก 7.8% มาจาก Google
ทราฟฟิกบอทคือทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตใด ๆ ที่ไม่ได้มาจากมนุษย์ และการตรวจจับทราฟฟิกที่สงสัยว่ามาจากบอท ช่วยให้เจ้าของไซต์และแอปพลิเคชันสามารถเฝ้าระวังและบล็อกกิจกรรมที่อาจมุ่งร้ายได้ หากจำเป็น อย่างไรก็ตาม บอทไม่ได้ประสงค์ร้ายไปทั้งหมด บอทบางส่วนยังมีประโยชน์ด้วย และ Cloudflare มีรายชื่อบอทที่ผ่านการรับรอง ซึ่งประกอบด้วยบอทที่ใช้ในการทำงานต่าง ๆ เช่น การจัดทำดัชนีโปรแกรมค้นหา การทดสอบประสิทธิภาพ และการตรวจสอบความพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะมีเจตนาอย่างไร ในปี 2024 เราวิเคราะห์ว่าทราฟฟิกบอทมาจากที่ใด โดยใช้ที่อยู่ IP ของคำขอ เพื่อระบุเครือข่าย (autonomous system) และประเทศ/ภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับบอทที่ส่งคำขอ แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ยังคงเป็นหนึ่งในแหล่งทราฟฟิกบอทอันดับต้น ๆ ด้วยหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องมืออัตโนมัติจัดสรรทรัพยากรคอมพิวเตอร์อย่างง่ายดาย, ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำในการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์แบบสั้น ๆ, แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่จัดตั้งกระจายครอบคลุมทั่วโลก และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์สูงของแพลตฟอร์ม
ทั่วโลก เราพบว่าทราฟฟิกบอทที่พบเห็น 68.5% มาจากประเทศใน 10 อันดับต้นในปี 2024 โดยมาจากสหรัฐอเมริกากว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าอันดับที่ 2 อย่างเยอรมนีถึง 5 เท่า (เมื่อเทียบกับปี 2023 ส่วนแบ่งของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ส่วนแบ่งของเยอรมนีลดลงเล็กน้อย) ในหมู่แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่ปล่อยทราฟฟิกบอทออกมา Amazon Web Services มีส่วนแบ่งถึง 12.7% ของทราฟฟิกบอททั่วโลก และ 7.8% มาจาก Google Microsoft, Hetzner, Digital Ocean และ OVH ทั้งหมดแต่ละรายมีสัดส่วนมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์
การกระจายของทราฟฟิกบอททั่วโลกตามประเทศที่มาในปี 2024
การกระจายของทราฟฟิกบอททั่วโลกตามเครือข่ายที่มาในปี 2024
เกม/การพนันเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีสูงที่สุดทั่วโลก โดยสูงกว่าอุตสาหกรรมการเงินที่ตกเป็นเป้าหมายสูงสุดของปี 2023 เล็กน้อย
อุตสาหกรรมที่ตกเป็นเป้าการโจมตีมักเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โดยขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้โจมตี ผู้โจมตีอาจพยายามสร้างความเสียหายทางการเงินในช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูง เพื่อสร้างข้อได้เปรียบจากคู่แข่งในเกมออนไลน์โดยการโจมตี หรือเพื่อแสดงความเห็นทางการเมืองโดยการโจมตีเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพื่อระบุการโจมตีตามเป้าหมายอุตสาหกรรมในปี 2024 เราวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งสำหรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องภายในบันทึกลูกค้าในอุตสาหกรรมกลุ่มนั้น เรารวบรวมทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งเป็นรายสัปดาห์ตามประเทศ/ภูมิภาคที่มาภายในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 19 กลุ่ม
จากการรวบรวม บริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการพนัน/เกมตกเป็นเป้าหมายการโจมตีสูงสุดในปี 2024 โดย 6.6% ของทราฟฟิกที่ยับยั้งได้ทั่วโลกมุ่งเป้าที่อุตสาหกรรมนี้ อุตสาหกรรมนี้ถูกโจมตีมากกว่ากลุ่มการเงินเล็กน้อย ซึ่งเคยเป็นผู้นำในรายชื่อที่รวบรวมเมื่อปี 2023 (อุตสาหกรรมทั้งสองแสดงค่าที่ 6.6% ในมุมมองสรุปเนื่องจากการปัดเศษ) เว็บไซต์การพนัน/เกมมีส่วนแบ่งทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งสูงสุดในเดือนมกราคมและสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ โดยอาจเกี่ยวข้องกับการแข่งขัน National Football League รอบตัดเชือกในสหรัฐอเมริกา ก่อนเข้าสู่รอบ Super Bowl
การโจมตีที่มุ่งเป้าหมายที่องค์กรการเงินพบเห็นได้สูงสุดในเดือนพฤษภาคม และทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งมีจำนวนสูงสุดที่ 15.3% ในสัปดาห์ของวันที่ 13 พฤษภาคม เหตุการณ์นี้สอดคล้องกับตัวเลขในรายงานภัยคุกคาม DDoS ของไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ที่แสดงให้เห็นว่า บริการทางการเงินเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดตามปริมาณคำขอในระหว่างไตรมาส ในภูมิภาคอเมริกาใต้และตะวันออกกลาง
อย่างที่เราเห็นในอดีต กิจกรรมการโจมตีสูงสุดแตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรมเมื่อดูเป็นรายสัปดาห์ ปริมาณโจมตีสูงสุดที่เห็นได้ในปีนี้มาจากการโจมตีที่มีเป้าหมายที่องค์กรด้านผู้คนและสังคม (มีทราฟฟิกถูกยับยั้ง 19.6% ในสัปดาห์ของวันที่ 1 มกราคม), อุตสาหกรรมยานยนต์และยานพาหนะ (มีทราฟฟิกถูกยับยั้ง 29.7% ในสัปดาห์ของวันที่ 15 มกราคม) และอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (มีทราฟฟิกถูกยับยั้ง 27.5% ในสัปดาห์ของวันที่ 26 สิงหาคม)
ส่วนแบ่งทราฟฟิกที่ถูกยับยั้งทั่วโลกตามอุตสาหกรรมในปี 2024, มุมมองสรุป
Log4j ยังเป็นภัยคุกคามที่คงอยู่ และตกเป็นเป้าหมายตลอดปี 2024 อย่างต่อเนื่อง
ในเดือนธันวาคม 2021 เราเผยแพร่บล็อกโพสต์หลายตอนเกี่ยวกับช่องโหว่ Log4j โดยเน้นย้ำถึงภัยคุกคามของช่องโหว่นี้ ข้อสังเกตของเราเกี่ยวกับความพยายามใช้ช่องโหว่ และขั้นตอนที่เราใช้เพื่อปกป้องลูกค้า 2 ปีต่อมาใน Year in Review ปี 2023 เราสังเกตว่า ถึงแม้ Log4j จะเป็นช่องโหว่ที่เก่าแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นเป้าหมายสูงสุดสำหรับการโจมตีในระหว่างปี 2023 โดยมีกิจกรรมโจมตีที่เกี่ยวข้องสูงกว่าช่องโหว่อื่น ๆ ที่พบได้บ่อยค่อนข้างมาก
ในปี 2024 หรือ 3 ปีหลังจากการเปิดเผยข้อมูล Log4j ครั้งแรก เราพบว่า Log4j ยังคงเป็นภัยคุกคามที่มีการใช้งานอยู่ ปีนี้ เราเปรียบเทียบกิจกรรมการโจมตีประจำวันตามปกติสำหรับ Log4j กับกิจกรรมการโจมตีสำหรับการแทรกโค้ด Atlassian Confluence ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่เราสำรวจใน Year in Review ปี 2023 รวมถึงกิจกรรมการโจมตีประจำวันแบบรวมสำหรับ CVE หลายรายการที่เกี่ยวข้องกับช่องโหว่การเลี่ยงการตรวจสอบความถูกต้อง (Authentication Bypass) และการเรียกใช้โค้ดระยะไกล (Remote Code Execution) ที่เผยแพร่ในปี 2024
กิจกรรมการโจมตี Log4j โดยทั่วไปดูเหมือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตลอดทั้งปี โดยเห็นช่วงที่มีกิจกรรมพุ่งสูงหลายครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี จากนั้นเห็นอีกครั้งในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เมื่อเปรียบเทียบส่วนต่างของกิจกรรม Log4j มีจำนวนมากกว่าการแทรกโค้ด Atlassian Confluence ตั้งแต่ 4 เท่าถึง 20 เท่า และมากกว่ากิจกรรมช่องโหว่การเลี่ยงการตรวจสอบความถูกต้องและการเรียกใช้โค้ดระยะไกลรวมกันถึง 100 เท่า
แนวโน้มกิจกรรมการโจมตีทั่วโลกสำหรับช่องโหว่ที่ถูกใช้บ่อยในปี 2024
ความปลอดภัยของการกำหนดเส้นทาง ซึ่งวัดเป็นส่วนแบ่งของเส้นทาง RPKI ที่ถูกต้องและส่วนแบ่งของพื้นที่ที่อยู่ IP ที่ครอบคลุม ดูดีขึ้นทั่วโลกตลอดปี 2024
ในฐานะโปรโตคอลการกำหนดเส้นทางที่เป็นรากฐานของอินเทอร์เน็ต Border Gateway Protocol (BGP) จะคอยสื่อสารเส้นทางระหว่างเครือข่าย เพื่อช่วยให้ทราฟฟิกเดินทางไปมาระหว่างแหล่งที่มีและจุดหมายปลายทางได้ อย่างไรก็ดี BGP ที่อาศัยความไว้ใจระหว่างเครือข่าย และข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่แชร์กันระหว่างเพียร์ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม สามารถส่งทราฟฟิกไปผิดที่ ซึ่งอาจส่งผลเสียที่มุ่งร้ายได้ Resource Public Key Infrastructure (RPKI) เป็นวิธีวิทยาการรหัสลับของการลงทะเบียนการประกาศเส้นทางของ BGP เข้ากับหมายเลข Autonomous System (AS) ที่มาที่ถูกต้อง นี่คือวิธีการรับรองว่าข้อมูลที่แชร์ไปนั้นมาจากเครือข่ายที่ได้รับอนุญาต (ข้อสังเกตสำคัญก็คือ นี่เป็นโจทย์ท้าทายเพียงครึ่งเดียวในการรักษาความปลอดภัยการกำหนดเส้นทาง เพราะผู้ให้บริการเครือข่ายยังต้องยืนยันลายเซ็นเหล่านี้ และกรองการประกาศที่ไม่ถูกต้องออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแชร์เพิ่มเติม)
Cloudflare เป็นผู้สนับสนุนการรักษาความปลอดภัยการกำหนดเส้นทางมาอย่างยาวนาน รวมทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งในโครงการ MANRS CDN และ Cloud และให้เครื่องมือสาธารณะที่ช่วยให้ผู้ใช้ทดสอบว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของตนใช้งาน BGP ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ต่อยอดจากข้อมูลเชิงลึกที่มีอยู่ในหน้า Routing ใน Cloudflare Radar เราวิเคราะห์ข้อมูลจากคลังข้อมูลรายวัน RPKI ของ RIPE NCC เพื่อประเมินส่วนแบ่งของเส้นทางที่ถูกต้องของ RPKI (ตรงข้ามกับการประกาศเส้นทางที่ไม่ถูกต้องหรือไม่รู้สถานะ) และดูว่าส่วนแบ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างตลอดปี 2024 รวมทั้งประเมินส่วนแบ่งของพื้นที่ที่อยู่ IP ที่ครอบคลุมโดยเส้นทางที่ถูกต้อง เราสนใจตัวชี้วัดหลังสุด เพราะว่าการประกาศเส้นทางที่ครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่ IP อย่างมีนัยสำคัญ (เช่น ที่อยู่ IPv4 หลักล้าน) มีโอกาสส่งผลกระทบได้สูงมากกว่าการประกาศที่ครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่ IP เพียงบล็อกเล็ก ๆ (เช่น ที่อยู่ IPv4 หลักร้อย)
ที่ระดับโลกในระหว่างปี 2024 เราพบว่าเส้นทาง IPv4 ที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น 6.4 เปอร์เซ็นต์ (จาก 43.4% เป็น 49.8%) และเส้นทาง IPv6 ที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ (จาก 53.7% เป็น 56.9%) จากแนวโน้มนี้ เป็นไปได้ว่าเส้นทาง IPv4 เกือบครึ่งจะเป็น RPKI ที่ถูกต้องภายในสิ้นปีปฏิทิน 2024 เมื่อดูส่วนแบ่งพื้นที่ที่อยู่ IP ทั่วโลกที่ครอบคลุมโดยเส้นทางที่ถูกต้อง เราจะเห็นว่า IPv4 เพิ่มขึ้น 4.7 เปอร์เซ็นต์ (จาก 38.9% เป็น 43.6%) และ IPv6 เพิ่มขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ (จาก 57.6% เป็น 60.9%)
ส่วนแบ่งของการกำหนดเส้นทาง RPKI ที่ถูกต้องทั่วโลกตามเวอร์ชัน IP ในปี 2024
ส่วนแบ่งของพื้นที่ที่อยู่ IP ที่ประกาศทั่วโลกที่ครอบคลุมโดยเส้นทางที่ถูกต้อง RPKI ในปี 2024
สเปน เริ่มต้นปี 2024 โดยมีเส้นทางที่ถูกต้อง (ทั้ง IPv4 และ IPv6) ตาม RPKI น้อยกว่าครึ่ง อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งของเส้นทางที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เมื่อ AS12479 (Orange Espagne) ลงทะเบียน Prefix ที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่ IP ของตัวเองถึง 98% ซึ่งก่อนนี้มีสถานะความถูกต้องตาม RPKI เป็น "ไม่ทราบ" (หรือไม่พบ) ดังนั้นจึงแปลง Prefix เหล่านี้จากไม่รู้จักเป็นถูกต้อง การดำเนินการครั้งนั้นเพิ่มสัดส่วนของความถูกต้องของ IPv4 เป็น 76% และถึง 81% ในวันที่ 1 ธันวาคม และเพิ่มความถูกต้องของ IPv6 ทันทีเป็น 91% และถึง 92.9% ในวันที่ 1 ธันวาคม การเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้านพื้นที่ที่อยู่ IP ที่ครอบคลุมเห็นได้ที่ แคเมอรูน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่ IP มากกว่า 2 เท่า ตอนสิ้นเดือนมกราคมจาก 32% เป็น 82% สาเหตุมาจากที่ AS36912 (Orange Cameroun) ลงทะเบียน Prefix ที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่ IPv4 ของตัวเอง และเปลี่ยนพื้นที่ที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องเป็นเส้นทางที่ถูกต้องตาม RPKI
ส่วนแบ่ง IPv4 และ IPv6 ของเส้นทางที่ถูกต้องตาม RPKI สำหรับสเปนในปี 2024
ส่วนแบ่งของพื้นที่ที่อยู่ IPv4 ที่ครอบคลุมตามเส้นทางที่ถูกต้องตาม RPKI สำหรับแคเมอรูนในปี 2024
ความปลอดภัยอีเมล
อีเมลโดยเฉลี่ย 4.3% ถือได้ว่าเป็นอีเมลประสงค์ร้ายในปี 2024
ถึงแม้องค์กรหันไปใช้แอปประสานงาน/ส่งข้อความมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่อีเมลยังคงเป็นแอปพลิเคชันธุรกิจที่สำคัญ และเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อการเข้าถึงเครือข่ายองค์กรที่น่าสนใจมากในสายตาของผู้โจมตี ผู้โจมตีจะส่งอีเมลมุ่งร้ายเจาะจงเป้าหมาย ซึ่งพยายามสวมรอยเป็นผู้ส่งตัวจริง (เช่น ผู้บริหารองค์กร) จากนั้นพยายามให้ผู้ใช้คลิกลิงก์หลอกลวงหรือลิงก์ที่มีไฟล์แนบอันตราย นอกจากนี้ยังมีภัยคุกคามอื่น ๆ อีกมากมาย Cloudflare Email Security ปกป้องลูกค้าจากการโจมตีทางอีเมล รวมถึงข้อความอีเมลมุ่งร้ายที่เจาะจงเป้าหมาย ในระหว่างปี 2024 อีเมลเฉลี่ย 4.3% ที่ Cloudflare วิเคราะห์พบว่ามีลักษณะมุ่งร้าย ข้อมูลรวมในระดับสัปดาห์จะเห็นอัตราพุ่งสูง 14% ในปลายเดือนมีนาคม ต้นเดือนเมษายน และกลางเดือนพฤษภาคม เราเชื่อว่า อัตราที่พุ่งสูงเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการโจมตีแบบ "กระทบชิ่ง" ที่มีเป้าหมาย ซึ่งผู้โจมตีระดมส่งข้อความที่ส่งไม่ถึงจำนวนมากใส่เป้าหมาย ซึ่งต่อมาข้อความดังกล่าวจะเด้งไปหาเหยื่อเจ้าของอีเมลถูกตั้งค่าไว้เป็นที่อยู่ reply-to:
แนวโน้มของส่วนแบ่งอีเมลมุ่งร้ายทั่วโลกในปี 2024
ลิงก์หลอกลวงและการสวมรอยเป็นภัยคุกคามที่พบได้บ่อยที่สุดในข้อความอีเมลมุ่งร้าย
ผู้โจมตีใช้เทคนิคต่าง ๆ ขณะที่ใช้ข้อความอีเมลมุ่งร้ายเป็นเวกเตอร์การโจมตี โดยเราพูดถึงเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้เป็นหมวดหมู่ภัยคุกคาม เราแบ่งหมวดหมู่เหล่านี้และสำรวจอย่างละเอียดในรายงานภัยคุกคามฟิชชิ่ง ในการวิเคราะห์อีเมลมุ่งร้ายของเรา เราพบว่าข้อความดังกล่าวอาจประกอบด้วยภัยคุกคามหลายประเภท ในการตรวจสอบการรวบรวมแนวโน้มกิจกรรมภัยคุกคามสำหรับหมวดหมู่เหล่านี้ เราพบว่าโดยเฉลี่ยตลอดปี 2024 ข้อความอีเมลมุ่งร้าย 42.9% ประกอบด้วยลิงก์หลอกลวง โดยที่มีส่วนแบ่งสูงถึง 70% ในหลายช่วงตลอดปี กิจกรรมสำหรับหมวดหมู่ภัยคุกคามนี้มีอัตราพุ่งสูงเป็นระลอก โดยที่จุดต่ำสุดอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม และมีแนวโน้มลดลงโดยทั่วไปเห็นได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน
การสวมรอยเป็นหมวดหมู่ภัยคุกคามที่มีอัตราการใช้คล้ายคลึงกัน โดยภัยคุกคามประเภทนี้พบในอีเมลที่วิเคราะห์สูงถึง 70% ในหลายสัปดาห์ตลอดทั้งปี โดยเฉลี่ยตลอดปี 2024 อีเมล 35.1% มีความพยายามในการสวมรอยเป็นคนอื่น กิจกรรมรูปแบบนี้ของภัยคุกคามหมวดหมู่นี้ดูคล้ายคลึงกับลิงก์หลอกลวง โดยมีช่วงเวลาที่มีจำนวนสูงสุดและต่ำสุดเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์เดียวกัน มีหลายครั้งที่การสวมรอยเป็นภัยคุกคามที่พบบ่อยกว่าลิงก์หลอกลวงในอีเมลที่วิเคราะห์ ดังที่เห็นได้ในกราฟด้านล่าง
จากหมวดหมู่ภัยคุกคามอื่น ๆ การขู่กรรโชกมีการเปลี่ยนแปลงมากตลอดทั้งปี หลังจากที่พบภัยคุกคามดังกล่าวอยู่ในอีเมลมุ่งร้าย 86% ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ส่วนแบ่งของภัยคุกคามประเภทนี้ค่อย ๆ ลดลงตลอดทั้งปี จนในเดือนพฤศจิกายนเหลือไม่ถึง 10%
แนวโน้มของอีเมลมุ่งร้ายทั่วโลกในหมวดหมู่ลิงก์หลอกลวงและการสวมรอยในปี 2024
ข้อความอีเมลมากกว่า 99% ที่ประมวลผลโดย Cloudflare Email Security ที่มาจากโดเมนระดับบนสุด (TLD) อย่าง .bar, .rest, และ .uno พบว่าเป็นสแปมหรือมีลักษณะมุ่งร้าย
ในเดือนมีนาคม 2024 เราเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกด้านความปลอดภัยของอีเมลชุดหนึ่งทาง Cloudflare Radar ซึ่งประกอบด้วยการสำรวจสิ่งที่เรียกว่า "โดเมนอันตราย" กล่าวคือ โดเมนระดับบนสุด (TLD) ที่พบว่าเป็นแหล่งของอีเมลสแปมหรืออีเมลมุ่งร้ายที่พบในข้อความที่ Cloudflare Email Security วิเคราะห์ได้ การวิเคราะห์ดูจาก TLD ของโดเมนที่ส่งที่พบในส่วนหัว จาก
: ของข้อความอีเมล เช่น ถ้าอีเมลมาจาก [email protected]
แสดงว่า example.com
เป็นโดเมนที่ส่ง และ .com เป็น TLD ที่เกี่ยวข้อง
ในข้อมูลที่รวบรวมในปี 2024 เราพบว่า .bar
, .rest,
และ .uno
เป็น TLD ที่ "อันตรายที่สุด" แต่ละอันมีอีเมลที่เป็นสแปมหรืออีเมลมุ่งร้ายถึง 99% จากข้อความอีเมลที่วิเคราะห์ (TLD เหล่านี้ทั้งหมดมีอายุอย่างน้อยสิบปี และแต่ละอันมีการใช้งานอยู่บ้างพร้อมชื่อโดเมนที่ลงทะเบียนระหว่าง 20,000 และ 60,000 รายการ) การคัดแยกตามส่วนแบ่งอีเมลมุ่งร้าย .ws
ccTLD (โดเมนระดับบนสุดตามรหัสประเทศ) เป็นของซามัวตะวันตก และได้ไต่ขึ้นมาอยู่เป็นอันดับสูงสุด โดยอีเมลที่วิเคราะห์มากกว่า 90% จัดว่าเป็นอีเมลมุ่งร้าย เมื่อแบ่งตามส่วนแบ่งอีเมลสแปม .quest
เป็นตัวการรายใหญ่ที่สุด โดยมีอีเมล 88% ที่มาจากโดเมนที่เกี่ยวข้องเข้าข่ายเป็นสแปม
TLD ที่เป็นแหล่งของอีเมลมุ่งร้ายและสแปมที่มีส่วนแบ่งโดยรวมสูงสุดในปี 2024
บทสรุป
อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่อข่ายที่ซับซ้อนและมีชีวิตชีวาอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลง เติบโต และวิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลา
Cloudflare Radar Year In Review ปี 2024 จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง การเติบโต และวิวัฒนาการที่พบตรวจวัดและสังเกตมาตลอดทั้งปี กราฟแนวโน้ม แผนที่ ตาราง และสรุปสถิติจะให้มุมมองที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับทราฟฟิกอินเทอร์เน็ต คุณภาพอินเทอร์เน็ต และความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ต และดูว่าตัวชี้วัดสำคัญในหัวข้อต่าง ๆ แตกต่างกันไปทั่วโลกและตามช่วงเวลาอย่างไร
เราขอแนะนำให้คุณเข้าไปที่ไมโครไซต์ Cloudflare Radar Year In Review ปี 2024 และสำรวจแนวโน้มในประเทศ/ภูมิภาคของคุณ และพิจารณาว่าข้อมูลเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อองค์กรของคุณอย่างไร เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับปี 2025 ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบริการอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดในหมวดหมู่อุตสาหกรรมต่าง ๆ เราขอแนะนำให้คุณอ่านบล็อกโพสต์ Year in Review จาก ChatGPT ถึง Temu: การจัดอันดับบริการอินเทอร์เน็ตอันดับต้นของปี 2024 ควบคู่กัน
หากมีคำถาม คุณสามารถติดต่อทีม Cloudflare Radar ได้ที่ [email protected] หรือทางโซเชียลมีเดียที่ @CloudflareRadar (X), https://noc.social/@cloudflareradar (Mastodon) และ radar.cloudflare.com (Bluesky)
ขอแสดงความขอบคุณ
เช่นเดียวกับทุกปี การสร้างสรรค์ข้อมูล ไมโครไซต์ และเนื้อหาสำหรับ Year in Review ประจำปีของเรานี้เป็นความพยายามทุ่มเทของทั้งทีม และเราขอใช้โอกาสนี้แสดงความชื่นชมสมาชิกในทีมที่มีส่วนร่วมในความพยายามของปีนี้ ขอขอบคุณ: Jorge Pacheco, Sabina Zejnilovic, Carlos Azevedo, Mingwei Zhang (วิเคราะห์ข้อมูล); André Jesus, Nuno Pereira (การพัฒนาส่วนหน้า); João Tomé (บริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยมที่สุด); Jackie Dutton, Kari Linder, Guille Lasarte (การสื่อสาร); Eunice Giles (การออกแบบแบรนด์); Jason Kincaid (การแก้ไขบล็อก) และ Paula Tavares (การบริหารทางวิศวกรรม) รวมถึงสมาชิกอีกนับไม่ถ้วนที่คอยตอบคำถาม แก้ไข สนับสนุน และเสนอความเห็น