สมัครเพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีโพสต์ใหม่:สมัครรับข้อมูล

พันธมิตรด้านการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ใหม่สำหรับ Cloudflare One

2021-03-23

อ่านเมื่อ 5 นาทีก่อน
โพสต์นี้ยังแสดงเป็นภาษาEnglish, 繁體中文, 日本語, 한국어, Español, Indonesia และ简体中文ด้วย

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราได้ประกาศเปิดตัว Cloudflare One ซึ่งเป็นโซลูชันเครือข่ายแบบบริการบนระบบคลาวด์ที่ครอบคลุม มีความปลอดภัย รวดเร็ว และเชื่อถือได้ พร้อม ๆ กับกำหนดอนาคตของเครือข่ายองค์กร ทั้งนี้ Cloudflare One ประกอบด้วยองค์ประกอบสองส่วน ได้แก่ บริการเครือข่าย อย่างเช่น Magic WAN และ Magic Transit ที่ปกป้องศูนย์ข้อมูลและสำนักงานสาขาและเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต และองค์ประกอบที่สองคือ Cloudflare for Teams ซึ่งรักษาความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชัน อุปกรณ์ และพนักงานขององค์กรที่ทำงานบนอินเทอร์เน็ต วันนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศการผสานการทำงานแบบใหม่กับ VMware Carbon Black, CrowdStrike และ SentinelOne เพื่อจับคู่กับการผสานรวม Tanium ที่มีอยู่ของเรา ลูกค้า Cloudflare for Teams สามารถใช้การผสานการทำงานเหล่านี้เพื่อจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชันของตน โดยพิจารณาตามสัญญาณความปลอดภัยจากอุปกรณ์ของลูกค้าเอง

Today, we are excited to announce new integrations with CrowdStrike, SentinelOne, and VMware Carbon Black to pair with our existing Tanium integration.

การปกป้องแอปพลิเคชันด้วย Cloudflare for Teams

Today, we are excited to announce new integrations with CrowdStrike, SentinelOne, and VMware Carbon Black to pair with our existing Tanium integration.

เมื่อเกิดการระบาดของ COVID-19 พวกเราหลายคนเริ่มทำงานจากที่บ้าน พนักงานออกจากสำนักงาน แต่เครือข่ายและแอปพลิเคชันที่พวกเขาทำงานด้วยไม่ได้ออกไปด้วย VPN เริ่มหยุดตอบสนองอย่างรวดเร็วภายใต้โหลดที่หนักอึ้งจากการรับส่งข้อมูล backhauling ส่วนการกำหนดค่าไฟร์วอลล์ใหม่กลายเป็นฝันร้ายด้านไอทีในชั่วข้ามคืน

เหตุการณ์เหล่านี้เป็นตัวเร่งลำดับเวลาให้องค์กรหลายแห่งปรับใช้สถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบ Zero Trust ทั้งนี้ Zero Trust หมายถึงการไม่ไว้วางใจทุกคำขอเชื่อมต่อกับทรัพยากรขององค์กร และหันมาสกัดกั้นและให้สิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะเมื่อตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยผู้ดูแลระบบเท่านั้น Cloudflare for Teams ทำแบบเดียวกันนี้ด้วยการแทนที่ VPN รุ่นเก่าด้วยเครือข่ายทั่วโลกของเราที่ทำงานในกว่า 200 สถานที่ และตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้ผ่านผู้ให้บริการข้อมูลยืนยันตัวตน และตรวจสอบการอนุญาตแบบไขว้ไปยังแอปพลิเคชันที่ร้องขอ เฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้ยืนยันตัวตนได้สำเร็จ และมีสิทธิ์ในการเข้าถึงเพียงพอเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึง ผลลัพธ์ที่ได้: ประสิทธิภาพดีขึ้นเนื่องจากเครือข่ายทั่วโลกของเรา และรูปแบบการรักษาความปลอดภัยที่อิงอยู่กับการตรวจสอบยืนยันมากกว่าความไว้วางใจ

Protecting applications with Cloudflare for Teams

BYOD—นำอุปกรณ์มาเอง นำการทำลายล้างมาเอง

การทำงานทางไกลก็เหมือนกับการเขวี้ยงลูกโค้งให้บริษัท เมื่อเส้นแบ่งระหว่างเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวไม่ชัดเจน ผู้ใช้ก็เริ่มทำงานจากอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์ส่วนบุคคลด้วย ทั้งนี้ อุปกรณ์ส่วนบุคคลหรืออุปกรณ์ที่ไม่ปลอดภัยมักจะเสี่ยงต่อภัยคุกคาม เช่น มัลแวร์ ได้มากกว่า เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้รับการปกป้องโดยโปรแกรมป้องกันมัลแวร์หรือผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยปลายทางที่มีความซับซ้อนมากขึ้น การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ปลอดภัยเพื่อเข้าถึงอีเมลของบริษัท ปรับใช้โค้ดกับระบบที่ใช้งานจริง หรือเข้าถึงแอปพลิเคชันที่มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนนั้นมีความเสี่ยง และอาจส่งผลให้เกิดการละเมิดกฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัท หรือที่แย่กว่านั้นคือ ทำให้ระบบเสียหายหากอุปกรณ์ที่ติดไวรัสแพร่กระจายมัลแวร์

นโยบายใหม่ที่พิจารณาจากความปลอดภัยของอุปกรณ์

เริ่มตั้งแต่วันนี้ ลูกค้า Cloudflare for Teams สามารถกำหนดค่านโยบายใหม่ที่อาศัยสัญญาณความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ผู้จำหน่ายความปลอดภัยปลายทางให้มา เพื่ออนุญาตหรือปฏิเสธการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันของตน คำว่าการรักษาความปลอดภัยปลายทาง ความปลอดภัยของอุปกรณ์ ความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ หรือรูปแบบของอุปกรณ์มักใช้แทนกันได้ แต่ทั้งหมดมีความหมายเหมือนกัน นั่นคือทั้งหมดนี้เป็นชุดของสัญญาณที่ช่วยตัดสินว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แล็ปท็อปหรือโทรศัพท์มือถือ มีความปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งรวมถึงสัญญาณและคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ วันที่ของโปรแกรมปะแก้ล่าสุด สถานะการเข้ารหัสดิสก์ รายการของแอปพลิเคชันที่ติดตั้ง สถานะของการป้องกันมัลแวร์หรือผู้ให้บริการความปลอดภัยปลายทาง และวันที่ของการสแกนมัลแวร์ครั้งล่าสุด

การทำความเข้าใจสัญญาณเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุปกรณ์ทั้งหมดที่ออกโดยบริษัท หรือเรียกอีกอย่างว่ากลุ่มอุปกรณ์ เป็นสิ่งสำคัญและทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยและไอทีสามารถพบอุปกรณ์เก่าที่ต้องมีการลงแพทช์ หรือเมื่ออุปกรณ์ติดมัลแวร์และจำเป็นต้องแก้ไข เมื่อใช้ Cloudflare for Teams เราสามารถใช้สัญญาณเหล่านี้เพื่อทำการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงเครือข่าย ตัวอย่างเช่น เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่ออกโดยบริษัทเข้าถึงแอปพลิเคชันที่มีความละเอียดอ่อน เราสามารถกำหนดนโยบายการเข้าถึงที่เปรียบเทียบหมายเลขซีเรียลของอุปกรณ์กับรายการอุปกรณ์ของบริษัท เมื่อหมายเลขซีเรียลตรงกันแสดงว่านั่นคือผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึง

ไคลเอนต์ WARP ของเราได้ตรวจสอบคุณลักษณะเหล่านี้บางส่วนแล้ว เช่น หมายเลขซีเรียลและตำแหน่งของอุปกรณ์ และรับรองว่าการรับส่งข้อมูลได้รับการเข้ารหัสด้วย WARP การผสานการทำงานใหม่ของเราจะช่วยให้ลูกค้าได้รับเลเยอร์การรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยกำหนดให้อุปกรณ์ทำงาน เช่น เอเยนต์ CrowdStrike หรือ VMware Carbon Black ก่อนที่จะให้สิทธิ์อุปกรณ์ในการเข้าถึงทรัพยากรที่ปกป้องด้วย Cloudflare การรวมสัญญาณจาก WARP และแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยปลายทางของคู่ค้าของเรา ทำให้เรามั่นใจได้ว่าอุปกรณ์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่บริษัทไม่ต้องการและปลอดมัลแวร์ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดภัย

ในวัฒนธรรมการทำงานจากทุกที่ในปัจจุบัน ความเสี่ยงที่จะเกิดช่องโหว่ของความปลอดภัยมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากพนักงานและอุปกรณ์ของพนักงานอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นภัยคุกคามต่อภายนอกสำนักงาน แต่ด้วยการผสานรวมกับ Cloudflare องค์กรต่าง ๆ จะสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของแพลตฟอร์ม CrowdStrike Falcon เพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันแบบมีเงื่อนไขแบบไดนามิกได้อย่างแม่นยำ ให้การป้องกัน Zero Trust แบบ end-to-end บนอุปกรณ์ปลายทาง ปริมาณงาน และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อหยุดยั้งการโจมตีในแบบเรียลไทม์— Patrick McCormack รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมระบบคลาวด์ CrowdStrike

VMware Carbon Black Cloud ได้รวมเอาอุปกรณ์ปลายทางและข้อเสนอการรักษาความปลอดภัยสำหรับปริมาณงานหลายรายการเข้าไว้ในแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟเดียว Cloudflare ใช้ประโยชน์จาก VMware Carbon Black Cloud เพื่อช่วยให้ลูกค้ารักษาความปลอดภัยและจัดการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์และเครือข่าย Zero Trust— Tom Corn รองประธานอาวุโส หน่วยธุรกิจความปลอดภัย, VMware

สถานประกอบการต่างเห็นพ้องกับแนวคิดที่ว่าขอบเขตแบบเดิมกำลังเสื่อมถอยลง ขอบเขตแบบกระจายและไดนามิกในปัจจุบันจำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ในการรักษาความปลอดภัย แต่ด้วยความร่วมมือกับ Cloudflare ทำให้แพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของเราช่วยให้องค์กรยุคใหม่มีโซลูชันการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งครอบคลุมอุปกรณ์ เครือข่าย และแอปพลิเคชันที่สำคัญต่อภารกิจที่องค์กรต่าง ๆ ไว้วางใจ— Chuck Fontana รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและองค์กร, SentinelOne

สถาปัตยกรรมการรักษาความปลอดภัย Zero Trust เริ่มต้นที่ระดับเครือข่ายด้วยการแบ่งส่วนและการบังคับใช้ แต่เมื่อมีการใช้ทรัพยากรและข้อมูลขององค์กรบนอุปกรณ์ปลายทางมากขึ้น สถาปัตยกรรม Zero Trust จึงต้องพิจารณาทั้งที่อุปกรณ์ปลายทางและเครือข่าย การทราบข้อมูลยืนยันตัวตนของอุปกรณ์ปลายทาง ตลอดจนการทราบว่าอุปกรณ์เป็นอุปกรณ์ล่าสุด ทนทานต่อภัยคุกคามด้านความปลอดภัยและไม่ตกอยู่ในอันตราย เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยรับประกันว่าจะมีการเข้าถึงทรัพยากรขององค์กรได้อย่างปลอดภัย— Pete Constantine หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์, Tanium

ผลิตภัณฑ์นี้ทำงานอย่างไร

การบูรณาการของเรานั้นไม่ยุ่งยาก ขั้นตอนแรกคือการรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันของคุณด้วย Cloudflare Access การผสานรวมระหว่าง Access และผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยปลายทางของคุณจะแตกต่างกันเล็กน้อยตามผู้จำหน่ายของคุณ

Tanium

Tanium ไม่ต้องการซอฟต์แวร์เพิ่มเติมใด ๆ ที่ติดตั้งในเครื่องของผู้ใช้ เพียงป้อนใบรับรอง Tanium ของคุณใน Cloudflare for Teams Dashboard และเปิดใช้งาน Endpoint Identity ในอินสแตนซ์ Tanium หลังจากนั้น คุณสามารถเพิ่ม Tanium เป็นการตรวจสอบนโยบายของแอปพลิเคชันใน Teams Dashboard เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของผู้ใช้เป็นอุปกรณ์ที่บริษัทไม่ต้องการและปราศจากมัลแวร์

VMware Carbon Black, CrowdStrike และ SentinelOne

ผู้จำหน่ายเหล่านี้ต่างจาก Tanium เพราะผู้จำหน่ายต้องการให้ใช้ไคลเอนต์ WARP บนอุปกรณ์ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะกำหนดค่าผู้ให้บริการเหล่านี้บน Teams Dashboard เราแนะนำให้ปรับใช้ WARP ผ่านโซลูชัน MDM ก่อน หรือผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดไคลเอนต์ WARP ได้โดยตรง

เมื่อใช้ไคลเอนต์ WARP สำหรับทีมของคุณแล้ว คุณสามารถกำหนดค่าผู้ให้บริการความปลอดภัยปลายทางของคุณได้บน Teams Dashboard โดยเริ่มแรก ให้เข้าสู่ระบบ Teams Dashboard ก่อน แล้วไปที่ My Team->Devices จากนั้นคลิกที่แท็บใหม่ "Device posture" สำหรับพันธมิตรของเรา เราได้กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าซึ่งควรจะใช้กับการติดตั้งส่วนใหญ่ได้

คุณกำหนดค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถตั้งกฎตามผู้ให้บริการที่คุณเลือก และนำไปใช้กับแอปพลิเคชันของคุณได้ แบบเดียวกับที่คุณทำกับนโยบาย Access อื่น ๆ เมื่อมีกฎแล้ว WARP จะตรวจสอบเพื่อดูว่าซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยปลายทางทำงานอยู่ในอุปกรณ์หรือไม่ และแจ้งสถานะไปยัง Access หลังจากนั้น Access จะใช้สถานะของซอฟต์แวร์ความปลอดภัยปลายทางของอุปกรณ์เพื่ออนุญาตหรือปฏิเสธการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ปลอดภัย หากอุปกรณ์ใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยปลายทางขององค์กร คุณจะได้รับสิทธิ์เข้าถึง

การตรวจสอบ Zero Trust เหล่านี้สามารถทำร่วมกับคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น MFA และ User Identity เพื่อป้องกันข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยหรือความพยายามในการเข้าถึงที่เป็นอันตรายอื่น ๆ

แล้วยังไงต่อ

ในรุ่นที่จะเปิดตัวในอนาคต เราจะรวมสัญญาณความปลอดภัยเพิ่มเติมจากพันธมิตรที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของเรา เช่น คะแนนความเสี่ยงของ CrowdStrike และ VMware Carbon Black เพื่อให้การควบคุมที่ละเอียดยิ่งขึ้นว่าอุปกรณ์ใดสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ได้รับการป้องกัน เราจะยังคงเป็นพันธมิตรกับผู้จำหน่ายรายอื่นต่อไปเพื่อให้ลูกค้าเลือกผู้จำหน่ายได้ตามที่ใจต้องการ

หากคุณกำลังใช้ Cloudflare for Teams และสนใจที่จะใช้งานการผสานการทำงานของเรา โปรดไปที่เอกสารสำหรับนักพัฒนาเพื่อศึกษาวิธีการเปิดใช้งาน หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือมีคำถาม โปรดกรอกแบบฟอร์มในหน้า Endpoint Security Partnerships แล้วเราจะรีบติดต่อกลับ

เราปกป้องเครือข่ายของทั้งองค์กร โดยช่วยลูกค้าสร้างแอปพลิเคชันรองรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความรวดเร็วของการใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันอินเทอร์เน็ต จัดการการโจมตีแบบ–DDoS ป้องปรามบรรดาแฮกเกอร์ และช่วยเหลือคุณตลอดเส้นทางสู่ Zero Trust

เข้าไปที่ 1.1.1.1 จากอุปกรณ์ใดก็ได้เพื่อลองใช้แอปฟรีของเราที่จะช่วยให้อินเทอร์เน็ตของคุณเร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น

หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจของเราเพื่อปรับปรุงการใช้งานอินเทอร์เน็ต เริ่มได้จากที่นี่ หากคุณกำลังมองหางานในสายงานใหม่ ลองดูตำแหน่งที่เราเปิดรับ
Zero TrustCloudflare Zero TrustDevice SecurityCloudflare AccessCloudflare OneSecurity Weekความปลอดภัย

ติดตามบน X

Kenny Johnson|@KennyJohnsonATX
Kyle Krum|@KyleKrum
Cloudflare|@cloudflare

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

08 ตุลาคม 2567 เวลา 13:00

Cloudflare acquires Kivera to add simple, preventive cloud security to Cloudflare One

The acquisition and integration of Kivera broadens the scope of Cloudflare’s SASE platform beyond just apps, incorporating increased cloud security through proactive configuration management of cloud services. ...

06 ตุลาคม 2567 เวลา 23:00

Enhance your website's security with Cloudflare’s free security.txt generator

Introducing Cloudflare’s free security.txt generator, empowering all users to easily create and manage their security.txt files. This feature enhances vulnerability disclosure processes, aligns with industry standards, and is integrated into the dashboard for seamless access. Strengthen your website's security today!...

02 ตุลาคม 2567 เวลา 13:00

How Cloudflare auto-mitigated world record 3.8 Tbps DDoS attack

Over the past couple of weeks, Cloudflare's DDoS protection systems have automatically and successfully mitigated multiple hyper-volumetric L3/4 DDoS attacks exceeding 3 billion packets per second (Bpps). Our systems also automatically mitigated multiple attacks exceeding 3 terabits per second (Tbps), with the largest ones exceeding 3.65 Tbps. The scale of these attacks is unprecedented....